วันพุธที่ 30 กันยายน พ.ศ. 2558

การสืบค้นหาความจริงถ้าขาดเครื่องมือช่วย งานก็ลุล่วงได้ลำบาก ตอนที่1

“'มะนครบาล เจ้านี้โอหังเกินยศแล้วรู้ตัวหรือเปล่า” ขุนพลขึ้น เสียงเคืองเพราะเพียงหัวหมู่นครบาลมาสำคัญผิดว่าด้วยเชิงและทั้งซาญ ณรงค์ ทรงเดชะก็ยืนขยับดาบ จึงตบสองมือฉาดฉาน “เราจักผิดถูกเจ้ารู้ ได้อย่างไรหรือ บอกทีรื เจ้ารู้ได้อย่างไร จึงมาล่วงเกินกันกระนี้ ซะ! หนอย หรือเจ้าหัวหมู่พระนครบาล ซักออกเถิดดาบเจ้าน่ะ  เครื่องดักฟังเสียง อย่าช้าขยับอยู่เลยจะสู้ข้าพระเจ้ามีหน้าที่กระนั้นหรือให้ร้อยเจ้าก็เข้ามาเถิด” ขุนคืกซี้หน้าและก็ซี้กรากทุกคน  ดักฟังราคาถูก “เออลอง กันดูให้ประจักษ์ตากันหน่อยเถิดว่า ใครดีใครชั่วให้ซักดาบออกมารุมกัน ซ้อนหัวมาล้อมขุนคืกเถิด”อา แล้วกันสิออกขุน” ซาฌณรงค์ก็ฃึ้นเสิยงอึง “เราเป็นเจ้า เงินมาตามทาส หาใช่เป็นพระนครบาลมิได้ จะเข้ากุมท่านก็มิสมควรอยู่ แต่ว่าหากท่านทำร้ายหรือล้พระนครบาลแล้วก็จำเป็นอยู่แก่เรา”เออ งั้นถอดดาบ” ช่างเหล็กพยักหน้าเห็นพาลของบุรุษมาแต่ ไหนแต่ไร มิอาจนับครั้งนับหนได้ถ้วนแล้วว่า เจตนาอาฆาตก็เคืองนัก หุ่น ดาบซึ่งแต่งแล้วเป็นรูปและทิ้งไว้เย็นก็คว้าขึ้นกวักมือท้า “มาเถิดทุกคน เรามันก็เป็นข้าแผ่นดินเดียวกัน แต่มาลบหน้าล่วงเกินกัน ก็วิวาทเสียเถิด”เหตุการณ์ที่กำลังจะคอขาดบาดตายก็พลันกลับตาลปัตร เมื่อลูกหมู่ นครบาลลากเอื้อยแตงออกมาจากห้อง หมื่นชาญณรงค์และหมื่นทรง เดซะอุทานผิดตัว ทั้งหมดที่ตอนแรกกระหยิ่มว่าเป็นฝ่ายโจทก์ ก็พลันจืด จ้อยลงถนัดตา หัวหมู่นคนบาลลังพล “กลับ  นุนฒีพฒัโต้ท่าเดี๋ยวก่อนอย่างเพิ่ง” ขุนพลทักขึ้นทั้งโบกมือห้าม “ก็ท่านว่าจักกุม ตัวเรานั้นอีกผู้หนี่งโดยสถานโทษจะว่าอย่างไรขุนท่านมิได้ผิดสิงใด” สเปกตรัมแม่เหล็กไฟฟ้าซึงสามารถเขากล่าวอ้อมแอ้มหลบตา “ข้าพระเจ้าจะ ลากลับ เพราะเสร็จกิจแล้วหาได้เกี่ยวแก่ท่านนี้ไม่”อีะทำไมเล่าจะมิเกี่ยว เมื่อลักครู่สิท่านซักดาบกรากกรายเกรง เราหนีจักเข้ากุมตัว แล้วไยบัดนี้จักด่วนกลับเสียมิแจ้งโทษว่าเราผิดด้วย สถานไร”เมื่อหัวหมู่พระนครบาลซึ่งขณะนี้ได้ถอดใจเสียแล้ว เพราะมองเห็น ความพลาดพลั้งของตัวเองด้วยการสืบสวน และตกกระไดพลอยโจนไป กับหมื่นชาญณรงค์ ก็ทำท่าจะกลับท่าเดียว หากขุนดีกตั้งใจจะเกทับ เพิ่อ สร้างความเกรงในตักดี๋ศรีไว้เสียบ้าง ก็กรากเข้ายื้อยุดฉุดมิอเอาไว้ แล้ว กล่าวว่า“กระนั้นหัวหมู่นครบาลเจ้าก็ต้องผิดหนักหนานี่เราขุนดีกไชยซาญ ทหารสมเด็จพระพุทธเจ้าอยู่หัว ใช่สมควรที่เจ้าจักมาดูแคลนมาแกล้งใส่ ไคล้ว่าเปีนผู้ผิดผู้ร้ายลักทาสเขาถึงสองครั้งสองหน หนแรกที่บ้านเสมาแล้ว แลครั้งนี้กำเริบใจถึงถอดดาบมาแร่รุมกัน ดีร้ายจักต้องเห็นกัน”ชาญณรงค์ก็เถียงแทนว่าท่านท้าเราให้ถอดดาบล้มิใช่หรือ แล้ว อย่างไรมาเอาผิดเป็นโทษเล่า อนึ่งนครบาลนี้ก็มาตามราชการโดย หน้าที่”ก็ถูก แต่จะว่าถูกแท้หรือหมืนชาญ เพราะหมู่นีมาเสมือนพวกท่าน เอาหน้าที่ขึ้นแอบแฝง และเราก็ตำแหน่งขุนพลพระพุทธเจ้าอยู่หัวลมควรว่าผิดถูกต้องกราบบังคมทูล หรือกล่าวฟ้องเป็นเรื่องราว เสมาเอ่ยอ้างด้วย เห็นการควรแล้วชี้ปราดไปอีกนั่นข้าคนบ่าวไพร่ท่านบุกเข้าถึงในสำนักนี้ก็เป็นนครบาลด้วยหรือ บาเช่นทหารพลอย่างเจ้าบุญศรีนี้สมควรแก่คักดิ้ศรี เครื่องดักฟังภาษาอังกฤษ  หรือจักมาลบหลู่ ดักฟังในห้องประชุม  แม้เป็นยามคิกเราจักตัดหัวเจ้าเสียบให้สำนึกทั่วๆ กัน จะว่าอย่างไร”บุญศรี ญาติเฒ่าแต้ม  และหลงรักเจ้าเอื้อยแดงอยู่ แต่เฒ่าแต้มไม่ ชอบ ครั้นถูกชี้ว่าผิดด้วย และคิดเอาว่าตนนั้นเป็นทหารต่างกรมกับเสมา คนละสายบังคับบัญชาก็มีความกล้า ขึ้นเสียงเถียง


เครื่องดักฟัง

วันอังคารที่ 29 กันยายน พ.ศ. 2558

เครื่องช่วยฟังเป็นเครื่องที่ช่วยในการรับฟังผู้ที่มีปัญหาด้านหู

จักมีแต่บ้านขุนรามบ้านเดียวในละแวกนั้น หากมีคูหนึ่งแยกจากคลอง เข้าไปในสวน หลังบ้านขุนรามเดขะได้ แต่ตอนที่พวกเราไปกันนี้ ไม่ได้ ลงเรือ เพราะถึงลงก็ไม่มีคลองฉะไกรให้แล่นเรืออีกแล้ว มีแต่ถนนฉะ ไกรใหญ่ เครื่องช่วยฟังราคาถูก  หรือถนนคลองท่อ บ้านขุนรามฯ ก็คงไม่หนีไปจากพื้นที่ ระหว่างหลังพระเจดีย์สมเด็จพระศรีสุริโยทัยกับสวนหลวง ร.๙ ซึ่งเรไร เจ้าก็พอจะเดินไปวังได้ไม่ไกลนัก และละแวกเดียวกันนี้ก็คงเป็นบ้าน ณรงค์วิชิต นายขัน และบ้านแม่ข้าหลวงบัวเผื่อนด้วย เพราะเวลากลับ จากวัง เรไรมักจะมาทางเดียวกันแล้วมาแยกเข้าแพร่งต่างสุ ไปบ้านของ ตน แต่ของแม่เรไรจักถึงก่อนเพื่อนที่ไม่เข้าใจก็คือ ตอนที่เสมาท้ารบกับพันฤทธิ้รณรบ นายขัน และ พันจบรณรงค์ นั้นเขาก็วิ่งออกมาจากบ้านขุนรามฯ ด้วยโทสะตอนแรก นัดจะไปฟันกันที่ตะแลงแกง หรือไม่ก็ที่ท้ายศาลพระกาพ ซึ่งอยู่ทางด้าน เหนือ กำแพงพระนครด้านทิศตะวันออก ใกล้สุ วัดธรรมิกราช แต่พอ เอาเข้าจริง กลับไปเดินผ่านย่านปาผ้าเหลือง ผมพยายามหาปาผ้าเหลือง แต่ไม่เจอบ้ามะพร้าว ซึ่งในแผ่นที่อยู่ทางมุมเกาะเมืองด้านตะวันออก เฉียงเหนือ หลังพระราชวังจันทรเกษมโน่น แล้วกลับมารบกันที่ลานวัดปา พาย ซึ่งต้องวิ่งวกกลับมาบริเวณใกล้สุ กับสืแยกถนนชีกุน ตัดกับถนน บ้าโทน  หูตึง ปัจจุบันประมาณนั้น วิ่งข้ามมาตั้งหลายลานวัด น่าจะหายโมโห เลืยก่อนคงไม่ได้รบกัน ดูแล้วไม่น่าจะไปไกลถึงขนาดนั้น เพราะบ้านขุน รามอยู่หลังสวนหลวง ร.๙ แล้ววิ่งไปคนละมุมเมืองเลยอย่างไรก็ตาม ซื่อสถานที่ในสมัยก่อนในแผนที่ และซื่อภูมินาม ทีท่านไม้ เมืองเดิม กับท่านสุมทุม บุญเกื้อ ท่านไปเที่ยวไปพัก ไปกินนอน ฝืงตัวอยู่ในสมัยนั้น กับซื่อปัจจุบันนี้อาจจะซํ้าจุ กัน หรือหายไปเลยก็ได้ ผมยังต้องหาอีกหลายซื่อที่ยังไม่พบ ทั้งจากแผนที่และหนังสือของพระยา โบราณราชธานีนทร์ท่าน อย่างเซ่น วัดร่มขาวหรือวัดมณเฑียร ที่สมบุญ กับสิน ไปทำบุญหลังจากเสร็จดิกยุทธหัตถีมาแล้ว และไปพบจำเรียงที่ สมบุญขึ้นไขโซ่หนีทาสไปเฝืาไข้แม่ทั้งพันอีนทราซกลาโหมหมื่นชาญณรงค์ กับแม่น้องหญิงดวงแข แม่ข้าหลวงบัวเผื่อน หมื่นทรงเดชะ พ่อขุนราม- หูหนวก  เดชะ ก็ไปประชุมกันที่วันมณเฑียร เกิดเรื่องจะจับทาสหนีนายเงิน แต่ พันสมบุญกับพันสิน ไม่ยอมให้จับเรื่องก็ถีงวิวาทกันอีก กำลังชุลมุน ขุนดิก เป็นออกหลวงโจมจัตุรงค์ก็อัญเชิญพระบรมราชโองการมาถึง แล้วรวบกุม ตัวทั้งหมดตามพระบรมราชโองการฐานกบฏดิก เพราะโดยเสด็จไม่หันช้าง อีกแห่งหนึ่งที่เราไปตูมาก็ที่บริเวณที่คิดว่าเป็นบ้านของอาจารย์บ่าย อาจารย์ของฝ่ายอริของเสมาคือ อาจารย์ของนายพุฒ พันจบ กับหมู่ขัน และฝ่ายตัวโกงทั้งหลาย (ความจริงเรื่องนี้ก็โกงกันทุกฝ่าย) คุณประยุกต์ บอกคุณหมอณัฏฐให้พาพวกเราไปตามถนนอู่ทองโฉมหน้าไปทางตะวันตก ลอดสะพานปริดี-ธำรง ไปทางวัดสุวรรณดาราราม แล้วขอให้คุณหมอ จอดตรงบริเวณที่สันนิษฐานว่าเป็นหลังวัดโค ลึกเข้าไปจะเป็นบ้านเผาข้าว ซึ่งเป็นสำนักของอาจารย์ตังอาจารย์บ่าย เป็นอาทมาตกองทะลวงฟันรุ่นไล่เสี่ยกับห่านพระครู ขุนของเสมา แต่นิสัยของอาจารย์บ่ายชอบเสเพล กินเหล้าเมายาเป็นอาจิณ เห็นแก่ได้ เล่ห์เหลี่ยมแพรวพราว จึงเอาดีไม่ได้ เห็นได้จากอาจารย์เอง รวมกับลูกคิษย์ระดับหมู่ขัน พันจบ แถมขุนรามอีกคน คุมรุมรบเสมายัง หงายท้องเลย แต่คุยเก่งมีลูกคิษย์มาก ที่น่าเกลียดคือ โดนลูกคืษย์ด่าลับ หลังเปีงใน ขุนคิก เมื่อทหารจะไปรบทัพจับคิก หรือได้ขัยชนะปราบปราม ข้าคิกพ่ายไปแล้ว ท่านก็จะให้มาประขุมกันที่  จำหน่ายเครื่องช่วยฟัง สนามหน้าจักรวรรดิซื่อเต็มๆ ว่าสนามหน้า พระที่นั่งจักรวรรดิไพซยนต์ เพื่อปูนบำเหน็จความดีความ ชอบ สนามแห่งนี้ ก็เหมือน สนามไชย ที่ข้างวังสราญรมณ์กรุงเทพฯ ที่อยู่ หน้าพระที่นั่งลึหบัญชร ซึ่งเป็นพระที่นั่งที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จออกไปให้ประซาซนเข้าเฝ่าซมพระบารมี ตอนที่เสด็จเถลิงถวัลยราช

เครื่องช่วยฟัง

วันอาทิตย์ที่ 27 กันยายน พ.ศ. 2558

เครื่องดักฟังที่สามารถซ่อนไว้ในรถยนต์ได้

ท่ามกลางความร้อนๆ หนาวๆ ของแจ็ก รวมถึงผู้ บริหารคนอื่นๆ ของฮอตเมล ที่กลัวว่าในที่สุดแล้ว บิลล้ เกตส์ จะเชิดใส่ และฮอดเมลก็จะไมได้เงินจากไมโครซอฟด้เลย แม้แด' เหรียญเดียวแต่ภาเทืยยังคงเชื่อในสิ่งที่เขาคิด เครื่องดักฟังเสียง  และเคยกล่าวกับผู้บริหาร คนอื่นๆ จากการที่เขาถูกไมโครซอฟค์ เชิญเข้าพบกับบิลล์ เกตส์ ว่า"บิลล่ เกตล์ ก็เป็นเพียงแค่คนธรรมดาที่ประลบความสำเร็จทาง ธุรกิจเท่านั้น จึงไม่จำเป็นต้องเกรงกลัวอะไรมากมายเหมือนที่คนอื่น ต่างเกรงกลัวในอำนาจ และบารมืของเขายิ่ง บิลล์ เกตส์ ประสบความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่เท่าใด เขาก็เป็นค นที่ไม่ยอมแพ้มากเท่านั้น แต่เมื่อมาพบกับข้อเสนอที่ ฮอตเมล ปฏิเสธ ซึ่งหากเป็นองค์กรหรือบริษัทอื่นๆ คงไม่กล้าปฏิเสธกันมาก ก็ยิ่งทำให้ บิลล์ เกตส์ ต้องการเอาชนะเป็นลองลามเท่าและอย่าลืมว่า ฮอตเมล ของเรามืดี มือนาคตที่ไมโครซอฟค์ จะสามารถนำไปต่อยอดความสำเร็จที่อาจเกิดขึ้นไต้อย่างมหาศาล เพราะ หากไม่มืดื บิลล์ เกตส์ ก็คงเชิดใส่ หลังจากการเจรจาล้มเหลวไปตั้งแต่ รอบแรกแล้ว"ท่ามกลางความร้อนๆ หนาวๆ ของแจ็ก รวมถึงผู้ บริหารคนอื่นๆ ของฮอตเมล ที่กลัวว่าในที่สุดแล้ว บิลล้ เกตล้ จะเชิดใส่ และฮอดเมลก็จะไม่ได้เงินจากไมโครซอฟด้เลย แม้แต่ เหรียญเดียแต่ภาเทียยังคงเชื่อในสิ่งที่เขาคิด และเคยกล่าวกับผู้บริหาร คนอื่นๆ จากการที่เขาถูกไมโครซอฟค์ เชิญเข้าพบกับบิลล์ เกตส์ ว่า"บิลล์ เกตส์ ก็เป็นเพียงแค่คนธรรมดาที่ประสบความสำเร็จทาง ธุรกิจเท่านั้น จึงไม่จำเป็นต้องเกรงกลัวอะไรมากมายเหมือนที่คนอื่น ต่างเกรงกลัวในอำนาจ และบารมีของเขายิ่ง บิลล์ เกตส์ ประสบความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่เท่าใด เขาก็เป็นค นที่'ไม่ยอมแพ้มากเท่านั้น แต่เมื่อมาพบกับข้อเสนอที่  ดักฟังเสียงบุคคล ฮอตเมล ปฏิเสธ ซึ่งหากเป็นองค์กรหริอบริษัทอื่นๆ คงไม่กล้าปฏิเสธกันมาก ก็ยิ่งทำให้ บิลล์ เกตล์ ต้องการเอาชนะเป็นสองลามเท่าและอย่าลืมว่า ฮอตเมล ของเรามืดี มือนาคตที่ไม'โคร'ซอฟต้ จะลามารถนำไปต่อยอดความสำเร็จที่อาจเกิดขึ้นไต้อย่างมหาศาล เพราะ หากไม่มืดื บิลค์ เกตส์ ก็คงเชิดใส1 หลังจากการเจรจาล้มเหลวไปตั้งแต่ รอบแรกแล้ว"'แล้วถ้าคุณยังยืนกรานข้อเสนอเดิมอย่างสุดโต่ง ในการเจรจาครั้ง    ต่อๆ ไป ก็จะค่อยๆ นำไปสู่ มูลค่าของผลประโยชน์ที่คุณตั้งเอาไว้ใน    ’ใจ" เพราะข้อเสนอที่คุณตั้งไว้อย่างสุดโต่งนั้น ยังไม่ใช่ ความต้องการ ที่แท้จริง'เพราะผลประโยชน์ที่แท้จริงที่คุณต้องการก็คือการให้ฝ่ายผู้เสนอ ลดผลประโยชน์สุดโต่งนั้นลง ตามผลประโยชน์ในใจที่คุณต้องการ    แน่นอนว่ามันต้องเป็นผลประโยชน์ที่มากกว่าที่ฝ่ายผู้เสนอ เสนอแก่คุณ  ในครั้งแรกหลายเท่า    นี่ล่ะคืออีกส่วนหนึ่งของกลยุทธ์ทางการตลาดที่จะทำให้คุณ รั้ารวยและประสบความสำเร็จ ตลอดชาติ'เพราะกลยุทธ์การตลาดแบบไวรัส ทำให้หกเดือนต่อมา มีพู้ใช้ บริการของฮอตเมลเพิ่มขึ้นเป็น 22 ล้านราย ซึ่งในช่วงเวลานั้นมืผู้ สมัครใช้งานเฉลี่ยวันละ 125,000 ราย เป็นการสร้างฐานผู้ใช้ฮอตเมลที่ เติบโตเร็วที่สุดในประวัติศาสตร์ ทำรายได้มหาศาลให้กับไมโครซอฟต่ ลมกับที่บิลล้ เกตส์ "ยอมจ่าย"เมื่อเป็นเช่นนี้ สิ่งที่คุฌผู้อ่านต้องปฏิบัติในการเจรจาต่อรอง หากได้รับข้อเสนอหริอเงื่อนไขต่าง ๆ acronym for  ดักฟังระยะไกล ดืออย่าริบตกลงในเงื่อนไขที่ผู้เสนอ ยื่นให้ครั้งที่หนึ่ง แต่ควรยื่นข้อเสนอของตนให้ "มากกว่า" ที่ผู้เสนอได้ ทำการเสนอมา อย่างสุดโต่งยิ่งถ้าหากธุรกิจหรือการประกอบการของคุณ เป็นสิ่งที่สร้าง กำไรและผู้เสนออยากได้มากๆ อยู่แล้ว โดยเฉพาะเป็นสิ่งใหม่ๆ ที่อาจ จะยังไม่เคยมืใครทำมาก่อน มีการวิเคราะห์ถึงความก้าวหน้าหรือการ เติบโตในอนาคต ผู้ที่ยื่น'ข้อเสนอ ก็จะนำ "เงื่อนไขที่เกินจริง" หรือ "สุดโต่ง" กลับไปพิจารณา แล้วจะกลับมาด้วยข้อเสนอที่ลดลงมาจาก ที่คุณเสนอ

เครื่องดักฟังระยะไกล

การผลิตเครื่องดักฟังที่สามารถพกพาได้ ตอนที่4

แต่สิ่งที่ศิริวัฒน์ขอเพียงอย่างเดียว ดักฟังสัญญาณมือถือ  ซึ่งเขาเคยกล่าวเอาไว้กับ ลื่อหนึ่งที่ได้ทำการสัมภาษณ์ไว้ว่าขออย่าดูถูกธุรกิจเล็กๆ อย่างนี้ เพราะนี่คืออาชืพ ของผม อนาคตของผม...คุณรู้ไหม ตอนที่ผมรวย ผมได้รับ การสนับสนุนจากนายธนาคารไม1กี่คน แต่ตอนที่ผมตกตา มี คนเกือบทั่วประเทศที่รู้ต่างให้กำลังใจและสนับสนุน...คุณลอง คืดดูสิว่าอย่างไหนมีค่ามากกว่าลัน"อย่างไรก็ตามจากที่กล่าวมานั้น สิ่งแรกที่นักธุรกิจทั้งหลายไม่ ควรจะกลัวก็คือ '‘ความล้มเหลว' เพราะนั่นจะกลายเป็นเสมือนสิ่งบั่น- ทอน หรือตัดกำลังใจในการประกอบธุรกิจไปเลย และจะทำให้ ไม่ กล้า' ที่จะเริ่มต้นทำธุรกิจใหม่ๆ อีกหากล้มเหลวในช่วงอายุต่างๆ ก็อย่าท้อถอย เพราะขีวิตเริ่มใหม่ ได้เสมอ และลามารถกลับมาประลบความสำเร็จได้อีกครั้ง และถ้าจะ ให้ดีที่สุด ก็จง "พลิกวิกฤต ใช้ความล้มเหลว เป็นจุดขายของตัวเอง" เหมือนที่ คิริวัฒน์ขายผู้ทระนงทำได้สำเร็จมาแล้วสำหรับตัวคิริวัฒน้ จากการที่เคยเป็นเจ้าของกิจการ ชีวิตกลับพลิกจากหน้ามือเป็นหลังมือ ในวันแรกที่ออกเดินขาย แซนด์วิชบริเวณโรงพยาบาลกรุงเทพ ซอยศูนย์วิจัย เขาต้อง ใช้เวลากว่าหกชั่วโมงกว่าจะขายไต้ 20 ชิ้น ไต้เงินมา 500 บาท นี่คือความแตกต่างจากความมั่งมืในช่วงระยะเวลาไม่กี่ เดือน ที่เขายังคงเป็นเจ้าของกิจการมูลค่า 400 ล้านบาทการที่เจ้านายต้องลงมาขายแซนด์วิชให้ลูกน้องได้เห็นนั้น อืกอย่างลูกน้องส่วนใหญ่ก็เรียนจบกันสูงๆ เคยมีเงินเดือนดีๆ ทั้งนั้น จึงอายที่จะออกมาขายแซนด์วิชเมื่อเป็นเข่นนี้ คิริวัฒน้ ก็ไม่ได้ห้ามหากพวกเขาจะจากไป เพราะ คนทุกคนต้องการมีอนาคตที่ดืและมั่นคงกันทั้งนั้น จึงเหลือลูกน้องเก่าที่ รักและภักดีไม่กี่คน ซึ่งเขาก็เข้าใจในจุดนี้ เพราะแม้แต่ตัวเขาเองก็ยัง เคยหลบเลี่ยงที่จะเผชิญหน้ากับเพี่อนๆ หรีอคู่ค้าที่เคยทำธุรกิจกันมา เพราะความอายในเรื่องของความอับอาย หรือการกลัวการดูถูกเหยียดหยาม ในช่วงเวลาที่พ่ายแพ้หรือท้อแท้นั้น คอลี่งที่สามารถเกิดขึ้นได้กับทุกคน เพราะนั่นหมายถึงว่าศักดิ้ศรี เกืยรติยศ และความมีหน้ามีตาได้มลาย หายไปหมดแล้ว ทำให้คิริวัฒน์เข้าใจและยอมรับในส่วนนี้ เพราะชีวิต จริงก็คือชีวิตจริง สิ่งที่เกิดขึ้นก็คือชีวิตจริง เขาล้มละลายจน ต้องเปลี่ยนมาขายแซนด์วิชก็คือเรื่องจริงยิ่งมีลื่อต่างๆ ทั้งนิตยสาร หนังสือพิมพ์ รายการวิทยุ โทรทัศน์ ที่ทราบข่าว ต่างพร้อมใจกันนำเสนอเรื่องราวชีวิตนักสู้ของเขาที่ไม่เคย ยอมแพ้ หรือคิดฆ่าตัวตายเหมือนผู้ประกอบการจำนวนมากในข่วง เวลานั้น ด้วยการยกย่องชมเขย ก็ทำให้ตัวเขา และแบรนด์ "คิริวัฒน์ แซนด์วิช" เป็นที่รู้จักไปทั่วประเทศทำให้คิริวัฒน์ผู้ชาญฉลาด พลิกวิกฤตในวิถีธุรกิจของตนเอง แปรเปลี่ยนเป็นสุดยอดกลยุทธ์ทางการค้า ด้วยการใช้ความพ่ายแพ้ ความล้มเหลว แต่ฮึดสู้ของตนเองนี้แหละเป็นจุดขายของตัวเอง ใน การประกอบธุรกิจแซนด์วิช ที่ขยายสาขาไปหลากหลายสาขาแล้วในปัจจุบัน ทำให้เขาปีความสุข  อุปกรณ์ติดตาม ดักฟังเสียงบุคคล และใช้ชีวิตอยู่ไต้อย่างพอเพียง โดยไม่มุ่งทะยานคิดใหญ่จนตกมาเจ็บเหมือนในครั้งที่แล้ว แม้ จะไม่รื่ารวยเทำf optical amplification ba หรือไม่ปีผลประกอบการเท่าเดิมก็ตาม


เครื่องดักฟัง

วันพฤหัสบดีที่ 24 กันยายน พ.ศ. 2558

แนวคิดใหม่ๆสามารถเกิดขึ้นได้ทุกๆนาที

เพราะจินตนาการที่เที่ยวพันกับการสร้างธุรกิจไม่ใช่ สิ่งที่เกิดขึ้นได้ง่ายๆ เพราะถ้าเกิดขึ้นได้ง่าย คงจะปีธุรกิจ ประเภทใหม่ๆ แนวใหม่ๆ เกิดขึ้นบนโลกใบนี้ไม่เว้นแต่ละวัน แทนที่จะปีธุรกิจแบบเดิมๆ เกิดขึ้นซาๆ กันในทุกๆ วัน  ช่วยฟังหูหนวก แบบนี้ธุรกิจที่เกิดจากจินตนาการนั้น จึงต้องเป็นสิ่งที่ไม่เคยมีใครทำ ไม่ เคยมีใครคิดค้นมาก่อน แต่ให้ผลตอบแทน หรือสร้างการเปลี่ยนแปลงให้ กับสังคม รวมทั้งเป็นที่ต้องการของคนจำนวนมากในสังคม จึงจะประลบ ความสำเร็จได้อย่างมหาศาลดังตัวอย่างที่ครั้งหนึ่งใครจะคิดว่า จะมีใครที่รับส่งวัสดุไม่ว่า จะเป็นชิ้นใหญ่ หรือ "ชิ้นเล็ก" จากทั่วโลกจะ "บิน" ข้ามทวีปหลากรัฐ หลายประเทศ เพื่อเตรืยมส่งให้กับผู้คนทั่วโลกที่อยู่ตามตรอกชอกซอย ต่างๆ ได้อย่างตรงตัวภายในวันรุ่งชิ้น ตามเวลาที่ระบุไว้ได้อย่างเหลือเชื่แนวคิดเช่นนี้ เคยเป็น "การบ้าน" ที่ เฟรด สมิท นักศึกษา มหาวิทยาลัยเยล ทำส่งอาจารย์ในวิชาเศรษฐศาสตร์ ด้วยการนำเสนอ โครงการธุรกิจการส่งพัสดุชิ้นเล็กๆ ที่ต้องการความรวดเร็วในการส่ง และรับประกันถึงที่หมายในเมืองต่างๆ ทั่วสหรัฐฯ ภายในวันกัดมา เช่น อะไหล่เครื่องยนต์ หรือแม้แต่เครื่องมือแพทย์ แต่การบ้านชิ้นนี้กลับนำไปสู่การถูกอาจารย์ต่อว่า แม้ชายหนุ่ม จะมีคุณปูเป็นกัปตันเรือกลไฟล่องแม่นํ้ามิลชิสซิปปี ส่วนคุณพ่อเป็นคน เริ่มเส้นทางรถเมล์เกรย์ฮาวนดในภาคใต้ของสหรัฐฯนั่นก็เพราะอาจารย์คิดว่า นี่ไม่ใช่ธุรกิจที่เหมือนกับคนรุ่นปูรุ่นพ่อ ได้สร้างเอาไว้ เพราะนั่นเป็นการสร้างเส้นทางคมนาคมโดยเรือและรถ แต่สิ่งที่รุ่นที่สามอย่าง เฟรด คิดขึ้นคือ การขนส่งวัสดุชิ้นเล็กๆ โดย เครื่องบินซึ่งอย่างไรก็ไม่มืทางเป็นไปได้ ไม่ว่าในเรื่องของการขนส่ง คมนาคม หรือการนำมาต่อยอดเป็นธุรกิจ เพราะต้องมืการลงทุนอย่าง เครื่องคล้องหูไร้สาย  มหาศาลโดยที่อาจารย์ไม่เคยรู้มาก่อนว่า ชีวิตของ เฟรด ผูกพันกับธุรกิจ ที่เกี่ยวกับการบินมาตั้งแต่เริ่มแตกเนื้อหนุ่มในวัย 15 ปี ด้วยการรับจ้าง ขับเครื่องบินโปรยยาปาแมลง เหนือทุ่งราบของดินแดนลามเหลี่ยมปาก แม่นํ้า มิสซิสซิปปีแม้แต่ตอนที่ส่งการบ้านอาจารย์ เขาก็ยังเป็นผู้ช่วยฟินฟูชมรม การบินของมหาวิทยาลัย และช่วยดูแลธุรกิจของชมรมไปพร้อมๆ กับการ เปิดบริษัทเล็ก ๆ ให้เช่าเครื่องบินในเมืองนิวฮาเวน จึงไม่แปลกที่ เฟรด จะลามารถนำจินตนาการในการสร้างธุรกิจ ขนส่งทางเครื่องบิน มาทำการบ้านที่เกี่ยวกับโครงการธุรกิจส่งอาจารย์แตกไม่สามารถปฏิเสธได้ว่า ตำนานการบ้านเกินขีดจินตนาการ ที่อาจารย์โต้แย้งอย่างเอาเป็นเอาตายนี้ คือลิ่งที่ยากจะเกิดขึ้น เพราะแม้ แต่ เฟรด เองในช่วงเวลานั้น อาจจะคิดเป็น "แผนธุรกิจ" ได้ก็จริงอยู่ แต่ในทางปฏิบัตินั้น "ยากยิง"แล้วประสบการณ์ที่จะมาช่วยเสริมจินตนาการให้เป็นจริง ขยายเสียงราคาถูก  ได้เริ่มต้นขึ้นในปีพ.ศ 2509 หลังจากจบจากการศึกษาที่มหา- วิทยาลัยเยล ซึ่งตรงกับช่วงสงครามเายดนามพอดิเฟรดตัดสินใจหันหลังให้ลับสิ่งที่เรียนมา ด้วยการสมัคร เข้าเป็นนาวิกโยธิน เพี่อให้ชีวิตได้สัมผัสกับสิ่งที่เขารัก นั่นก็คือ การขับเครื่องบินเพี่อให้กำลังสนับสนุนภาคพื้นดินสำหรับผู้คนมากมายโดยเฉพาะคนหนุ่มชาวอเมริกันที่จำต้องเข้า มาเป็นนาวิกโยธิน ทั้งอย่างตั้งใจและไม่ตั้งใจ สงครามอาจจะเป็นเสมือน ประสบการณ์ร้ายๆ ของชีวิต

เครื่องช่วยฟัง

วันพุธที่ 23 กันยายน พ.ศ. 2558

นายกมีคำสั่งให้ทหารคุมเข้มเรื่องความปลอดภัยในบริเวณทำเนียบ

หยุดพูด”ข้าพเจ้าก็ลากลับบ้านและพิจารณาดูว่า ขณะนี้ท่านกำลังชอบเล่น ต้นไม้จึงนำต้นแวนค้า ๑ มัดไปให้ท่านและช่วยท่านปลูกด้วย กำลังช่วย ท่านปลูกต้นไม้อยู่นั้นก็พูดถึงความบ้นปวนของบ้านเมืองด้วยประการ ต่างๆ ท่านก็นิ่งเฉยและพูดอ่อนลง ท่านว่าชาติไม่ใช่ของเราคนเดียว คน อื่นเขาช่วยได้ถมไปครั้งที่ เครื่องดักฟังฟรี สองข้าพเจ้าเห็นจะกรำแดดมากเกินไป พอกลับถึงบ้านก็เป็น ไข้ไป ๓-er วันเมื่อไปพบท่านครั้งที่สาม ข้าพเจ้าก็พูดเป็นครั้งสุดท้ายว่า ได้ตกลง กับผู้ควบคุมทหารในพระนครหมดแล้ว เสียแรงท่านสร้างบ้านเมืองเจริญ มาถึงเพียงนี้ จะไม่สร้างต่อไปอีกหริอท่านก็นิ่งเฉยตามเคยและเดินขึ้นบ้านทันที!ข้าพเจ้าเกือบเสียมารยาทไม่ได้ลาใครรีบเดินออกจากบ้านทันใดนั้น ท่านผู้หญิงละเอียด พิบูลสงครามริบเดินมายึดแขนข้าพเจ้าไว้และกล่าวว่า“บ้าทำไปเถิด ท่านไม่ทิ้งดอก เล่นตัวไปอย่างนั้นเอง!”ข้าพเจ้าทบทวนคำพูดของท่านผู้หญิงฯ อยู่หลายวันและปรกษากับ พล.ต.อ.เผ่า ศรียานนท์(ขณะนั้นยศ พ.อ.) ซึ่งได้เคยรับใช้ ฯพณฯ จอมพล ป. มานาน คงได้ความว่าถ้าสิงใดท่านต้องการมักจะพูดเลี่ยงไปเลี่ยงมาคล้ายไม่เอาใจใส่ เป็น อยู่อย่างนี้มานานแล้ว ในที่สุดข้าพเจ้าก็ตกลงใจจะดำเนินการ ตามแผนที่ วางไว้...จบประสบความสำเร็จคณะรัฐประหารได้เชิญนายควง อภัย1วงท์หัวหน้าพรรคประซาธิปัตย์ เข้าดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนต ดักฟังโทรศัพท์ รีหุ่นเชิดในวันที่ ๑๐ พฤศจิกายน ๒๙๙0 โดยคณะรัฐประหารเป็นผู้กำหนดคณะรัฐมนตรีและเป็นรัฐบาลเงาแต่นายควง อภัย1วงดํโ เป็นนายกรัฐมนตรีถึงวันที่ ๙ เมษายน ๒๙๙๑ คณะรัฐประหารอยากให้อำนาจบริหารประเทศอยู่กับจอมพล ป. จึงได้ยื่นคำขาดให้นายควงลาออกจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรีเสียและนี่เป็นบันทึกของนายควง อภัย1วงด้ ได้เขียนบอกเล่าไว้ว่า...ทั้งระบบโทรคมนาคม พวกคุณทำได้หรือ เมื่อเขาบอกว่าทำได้ก็ให้เขาทำไป ผมออกมาชัก ว่าวข้างนอกเสีย ก็ไม่เห็นเดือดร้อนอะไรนี่ การที่เขามาจี้ผมนั้น ผมจะเอา กำลังอะไรไปต่อผู้เขา และถ้าเราผู้จะผู้เพื่ออะไร?ลูกหลานคนอื่นจะพลอยตาย แต่ลูกหลานของผมไม่ตาย แล้วพวก ผมไปนั่งเก้าอี้รัฐบาลยังงั้นหรือ...ผมเห็นว่าไม่ถูก...แต่ท่านอาจจะเห็นว่า ผมคิดผิดก็ได้... นกวิชาการฝ่ายการเมืองได้วิเคราะห์ การทำรัฐประหาร ๒๔๙๐ ว่า เพื่อขจัดและทำลายฐานการเมืองของพรรคเสรีไทยที่มื อาจารย์ปรีดี พนมยงค์ ติดตามมือถือ  เป็นหัวหน้ารัฐประหารครั้งนี้ง่ายดายมาก ไม่มีการจับกุม ไม่มีการต่อต้าน และ ไม่มีใครตาย จอมพล ป. พิยุลสงคราม ให้สัมภาษณ์นักข่าวว่า“ผมจะไม,จับใครทั้งนั้น สำหรับปรืดีได้สังหลวงสินธุสงครามชัย แม่ทัพเรือ ซึ่งเขามาแจ้งว่านายปรืดีได้หลบหนีรัฐประหารออกจากทำเนียบ ไปพักอยู่ที่ท้องพระโรงเจ้าตากสิน ก่อนทำการรัฐประหารไม่กี่ชั่วโมง ให้ ท่านอยู่ตามสบายของท่านเถิด ท่านทำงานเหนื่อยมากแล้วก็สมควรจะได้ พักผ่อนเสียบ้าง”นอกจากนีจอมพล ป. ได้กล่าวคำปราศรัยทางวิทยุโฆษณาการ ใน การคืนเข้าสู'อำนาจในครั้งนี้ว่า...


เครื่องดักฟัง

อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ที่สามารถติดตามบุคคลได้

บนทึกของจอมพล ป. พิบูลสงคราม ที่นำเสนอผ่านหนังสือพิมพ์นั้น...ไร้ผลอย่างสิ้นเ?ง เพราะทันทีที่หม่อมเสนีย์ ปราโมช เข้ารับตำแหน่งนายกร้ฐมนตรี ได้ออก พ.ร.บ.อาชญากรสงคราม กวาดล้างพวกเฐบาลเกาที่ยอมให้ญี่ป่นผ่านแดนดังนั้นรัฐบาลหม่อมเสนียได้ออก พ.ร.บ. อาชญากรสงครามแล้วเข้า จับกุมจอมพล ป. เครื่องติดตามตัว พิบูลสงคราม ในฐานะอาชญากรสงคราม สำหรับพรรคพวกที่ถูกจับร่วมกับจอมพล ป. ได้แก่นายอัมพร พจนวิสุทิ นางสาวชวลี ช่วงวิทย์ พ.อ.สนิท ไทยยานนท์พ.ต.บรินทร์ ภักดีกุล น.,ท.ทักษ์ เสนิวงค่โหลวงไพริ ระย่อเดช พล.ท.หลวงเสรีเริงฤทธิ้ พ.ท.พระสารสาสน์ พลขันธ์ นายเพียร ราชธรรมนิเทศ นายสังข์ พัฒโนทัย พล.ท.มังกร พรหมโยธี นายประยูร ภมรมนตรี นายฉํ่า จำรัสเนตร หลวงวิจิตรวาทการ ร.ต.อ.สนิท ธรรมเชื้อ การจับกุมจอมพล ป. ครั้งนี้ ได้ใช้หน่วยจู่โจมผสม อันมีสารวัตร ทหารที่เคยเป็นหน่วยเสรไทยมาก่อน โดยกระทำกันเมื่อตอนเช้ามีด เช้า ล้อมบ้านพักซอยชิดลมของจอมพล ป. และตรึงกำลังเอาไว้จากนัน...เจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำหมายจับและหมายค้นของคณะ กรรมการอาชญากรสงครามเข้าจับกุมและค้นจอมพล ป. มิได้ขัดขืนแต่อย่างไร คงให้จับแต่โดยดี ซึ่งเป็นครั้งแรก ในชีวิตทางการเมืองที่ถูกจับในข้อหาการเมืองมีบันทึกของคุณหญิงละเอียด พิบูลสงคราม กล่าวถึงเหตุการณ์ที่ ท่านจอมพล ป. ถูกจับและต้องติดคุก สภาพจะเป็นเช่นไร... “บันทึกความ ทรงจำ” ของคุณหญิงกล่าวว่า...เมื่อเสร็จสงครามแล้ว ดิฉันยังจำเหตุการณ์ตอนที่ท่านจอมพลฯ ถูก รัฐบาลในขณะนั้นตั้งข้อหาว่าเป็นอาชญากรสงครามหมายเลขหนึ่ง นับว่า เป็นโทษขั้นหนักที่สุดสำหรับประเทศ หนังสือพิมพ์ทุกฉบับได้ลงข่าวนี้กัน  เครื่องติดตามในรถ อย่างครึกโครมความรู้สึกของท่านจอมพลฯ ในขณะนั้น ดิฉันรู้สึกว่าท่านชินซา มาก ทั้งนี้เพราะทราบล่วงหน้าอยู่แล้วว่าจะต้องประสบเคราะห์กรรมเช่นนี้ และก่อนหน้านั้นก็มืพรรคพวกมาเตือนมาบอกให้รู้ตัวอยู่เสมอๆ บางคนมา ตำหนิท่านเสียอีกว่าที่เป็นเช่นนี้ก็เพราะว่าท่านมอบอำนาจให้อยู่ในมือของ บุคคลอื่นมากเกินไป แต่ท่านก็มิได้พูดว่ากระไรเกี่ยวกับเรื่องนี้ รู้สึกว่าท่าน รู้ชะตากรรมของท่านดีวันที่ ๑C ตุลาคม ๒ (E-RTf? เป็นวันที่เจ้าหน้าที่มาเชิญตัวท่านไป ควบคุมในฐานะเป็นผู้ต้องหานั้น พวกเราทุกคนทราบล่วงหน้ากันหมดแล้ว เวลานั้นครอบครัวของเราพักอยู่ที่บ้านหลักสี่ ประมาณตีสี่ วันที่ท่านจะถูก ควบคุมตัวเป็นผู้ต้องหาโทษฉกรรจ์ มีนายทหารบกประมาณ ร:-๕ คนมาที่ บ้าน ร้อยเอกอนันต์ พิบูลสงคราม ลูกชายเป็นคนเปิดประตูรับนายทหาร ให้เข้ามาในบ้านแล้วบอกว่า“ขอเวลาหน่อยนะ คุณพ่อยังไม่ตื่น(อังกฤษ: ขอให้ท่านตื่นก่อนเถอะแล้ว ค่อยเอาตัวไป ”ซึ่งนายทหารนั้นก็ยินยอมเป็นอย่างดี เมื่อท่านจอมพลฯ ตื่นขึ้นมาท ราบเข้าท่านก็ถาม“อ้อ เขามากันแล้วหรือ พ่อก็พร้อมแล้วเหมือนกัน”นายทหารบนคนที่มาเชิญตัวท่านคนนั้น ซื่ออะไรก็จำไม่ได้เสียแล้ว ได้คุกเข่ากราบท่านและกล่าวด้วยนํ้าเสียงสั่นเครือและนํ้าตาตลอว่า “ผม ทำตามหน้าที่ที่ได้รับมอบหมายมาเท่านั้น” ซึ่งท่านก็เข้าใจและไม่ได้กล่าว อะไรอีกจนคำเดียว ก่อนฟ้าสางในตอนเช้าวันนั้นเองท่านก็ออกจากบ้าน จากลูกจากเมียไปโดยมีประสงค์ พิบูลสงคราม ลูกชายขับรถให้คุรพ่อด้วย ระหว่างนั้น ชุดดักฟังราคา ได้มีผู้มาแสดงความเสียใจกับดิฉันเป็นจำนวนมาก มี ทั้งคนไทยและชาวต่างประเทศ ดิฉันรู้สึกในขณะนั้นว่าชาวต่างประเทศ บางคนเสียอีกที่เข้าใจอะไรๆ ในบ้านเมืองราดีเสียกว่าคนในประเทศไทย นับเป็นภาวะที่ครอบครัวของเราลำบากมากทีเดียว ระหว่างที่ท่าน จอมพลฯ อยู่ในที่คุมขังในฐานะอาชญากรสงคราม ดีฉันถึงกับต้องขายของ เก่ากิน มีอะไรก็ขายไป พอเช้าขึ้นเจ๊กก็มาถามว่ามีอะไรจะขายให้บ้าง ดิฉัน ก็จ์ดการขายไปเรื่อยๆ คิดเสียว่าสมบ้ตินอกกายไม่ตายก็หาใหม่ได้ ก็เก็บ ขายเรื่อยไป นอกจากเครื่องเพชรมีค่าชิ้นหนึ่งที่ไม่ได้ขาย แต่เอาไปไว้กับ

เครื่องดักฟัง

การสวมอุปกรณ์ป้องกันความปลอดภัยคือความรับผิดชอบของทุกคนน

การไม่คบหาสมาคมกับญี่ป่นระหว่างที่ญี่ปุนอยู่ในประเทศไทย ผมได้ตั้งใจมั่นว่า จะไม่ไปในงาน เชิญของณี่ปุนเสียเป็นอันขาด และก็ได้ปฏิบัติตามนี้เรื่อยตลอดมาเพื่อดป็น ตัวอย่างมิให้ข้าราชการ และคนไทยอื่นๆ ดักฟังระยะไกล  ไปคบหาสมาคมกับญปุนให้เกิน ไปจนปรากฏต่อมาว่าในตอนหลังๆ ไม่มีคนไทยร่วมงานรับรอง ซึ่งฝ่าย ญี่ปุนเป็นผู้จัดขึ้นประการสำคัญที่ผมได้คิดว่าจะไม,ยอมให้ณี่ปุนเอาผมไปประกาศ โฆษณาชวนเชื่อหรือเอาผมไปแสดงละครที่ญี่ปุนเลยเป็นอันขาด ญี่ปุนมา บังคับผมหลายคราว เพื่อเอาตัวผมไปญี่ปุนให้ได้แต่จนบัดนี้ผมก็ยังไม่เคยได้ขึ้นเหยียบดินแดนญี่ปุนเลยลักครังเดียวการขัดขวางญี่ป่นทางการลื่อสารผมได้เคยลังแก่เจ้าหน้าที่ไว้ว่า จะส่งสื่อสารให้ทางฝ่ายญี่ปุนแล้วก็ ให้พยายามแกล้งโดยการส่งข่าวผิดๆ เสียบ้างเป็นต้น เจ้าหน้าที่จะปฏิบัติ ตามจนถึงกับญี่ปุนสงสัยในเรื่องนี้และได้ต่อว่าอยู่พักหนึ่งส่วนการโทรเลขในประเทศนั้น เราจำเป็นต้องใช้เกี่ยวแก่การรบของเราข้างหน้าเราจึงได้พยายามรักษาไว้ก่อน แต่ก็ได้มีแผนการจะได้ทำการ ตัดสายโทรเลขเสียเมื่อถึงเวลาร่วมรบกับญี่ปุนการขัดขวางญี่ป่นในการคมนาคมแล*การสร้างถนนหนทางทางฝ่ายเราได้ตั้งความมุ่งหมายว่า จะสร้างและบำรุงถนนหนทาง แต่เฉพาะสายที่เกี่ยวแก่การยุทธยาต่อญี่ปุนเท่านั้น นอกจากนี้แล้วเราไม่ คิดสร้างถนนอื่นใดระหว่างสงครามคราวนี้ เฉพาะทางติดต่อระหว่างมลายู กับประเทศไทย และทางสายระหว่างประเทศไทยกับพม่านั้น ฝ่ายเราได้ พยายามขัดขวาง ดักฟังทะลุกำแพง เป็นพิเศษมีให้การสร้างทางเหล่านี้เป็นผลสำเร็จทางสายนครสวรรคไปแม่สอด ผมก็ได้ตั้งงดมีให้สร้างสะพานและ ไม่ให้สร้างทางสายนี้ นอกจากที่ถูกบังคับให้สร้างตอนญี่ปุนมาใหม่ๆ แต่ ถึงจะสร้างทาง เราก็พยายามสร้างให้เสร็จข้าที่สุด จนถึงกับฝ่ายญี่ปุนต้อง ล่งทหารช่างมาจัดสร้างเองเป็นบางตอน มาในตอนหลังก่อนที่ญี่ปุนจะรุก เข้าตีอินเดีย พล.ท.ยามาดา ไปประชุมสิงคโปร์และได้รับคำตั้งจากแม่ทัพ สิงคโปร์ให้ไทยสร้างทางจากกรุงเทพฯ ไปหาดใหญ่และทางไปแม่สอดให้ เสร็จภายใน <r เดือน และให้จัดรถตู้ ©,๐๐๐หลัง ทั้งมีแจ้งความประสงค์ มาว่า จะเริ่มเข้าอินเดียนายพลยามาดา ได้เขียนคำตั้งติดมือมาด้วย พร้อมกับกำขับว่า งานนี้เป็นงานสำคัญอันแรกที่ฝ่ายญี่ปุน จำต้องร้องขอความช่วยเหลือจัด สร้างให้ได้ ผมได้ตอบว่าทางเหล่านี้ทำลำบากและยาวด้วย ทั้งมีหลายสาย ที่มีพลังขับเคลื่อน ซึ่ประกอบกับเราไม่มีเครื่องมือ เราจะทำให้เสร็จภายใน cr เดือนไม่ได้ พล โทยามาดาตอบว่า เท่าที่ขอมานี้ยังน้อยไป ความจริงทางสิงคโปร์ทั้งให้ไทย สร้างมากกว่านี้ เขาเองเป็นผู้โต้เถียงให้จึงได้ลดจำนวนลงเหลือเพียงเท่า ที่ได้ขอมานี้ และไทยจะต้องทำตามที่ฝ่ายญี่ปุนขอมานี้ให้สำเร็จ ผมเห็น ว่าการโต้เถียงไม่รับทำให้ณี่ปุนนั้น คงไม่มีทางสำเร็จได้เป็นอันขาด เพราะ  เครื่องตัดสัญญาณ เราเคยถูกบังคับให้ทำการต่างๆ มาแล้วมากมาย จนกระทั้งเราให้ฉายาแก่ ณี่ป่นเป็นสัตว์ป่า ซึ่งเป็นที่เกันทั่ว1ไป ดังนั้นผมจึงคิดจะไม่ทำตามคำขอของ ญี่ปุนด้วยอุบาย นับตั้งแต่ผมได้รับคำขอสร้างทางมาแล้ว ผมก็นิ่งเสียเฉยๆ ไม่ได้จัดการอะไรลงไปนอกจากให้เจ้าหน้าที่ไปพูดเองการส£สมกำลังทั้งชาติเพื่อรบญี่ป่นขั้นสุดท้ายผมตั้งใจไว้ว่า จะรวบรวมกำลังทั้งสิ้นของชาติทั้งหญิงทั้งชายเข้าล้ รบกับญี่ปุน จึงได้ตั้งกองทัพพลเรือนขึ้น การแกหัดรบได้ดำเนินไปด้วยดี ในบางแห่งได้ดำเนินไปจนถึงออกแกหัดทำการรบในภูมิประเทศ หวังไว้ว่า กองทัพพลเรือนนี้จะได้ทำการรบในท้องถิ่นต่างๆ ร่วมกับตำรวจและคอย เป็นกองโจรชัดขวางณี่ปุนทุกอย่างเท่าที่จะทำได้ เช่น ทำลายสะพาน ตัด สายการสื่อสาร เป็นต้นกองทหารหญิง ผมก็ได้จัดตั้งขึ้น เพื่อเป็นเครื่องจูงใจให้ล้กับญี่ปุนทั้ง

เครื่องติดตามรถยนต์

วันอังคารที่ 22 กันยายน พ.ศ. 2558

หูหนวกสามารถรักษาได้โดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ

รัฐมนตรีครั้งนั้นน่ะไม่ใช่ว่าเขาชอบขี้หน้าผมเขาจึงเอาตำแหน่งนี้มาประเคน ให้ผมหรอก แต่เรื่องมันจำเป็นที่ไม่มีใครกล้ารับ เพราะกลัวหลวงพิบูลฯ กัน หมด และนิสัยของผมมันก็ชอบทำในสิ่งที่ไม่มีใครอยากทำ ผมจึงบอกหลวง เครื่องคล้องหูไร้สาย  ประดิษฐ์ฯ (นายปรีดี พนมยงค์) ว่าถ้าไม่มีใครรับผมจะรับเอง“ขณะนั้นก็เกิดข่าวเขย่าขวัญเกี่ยวกับท่าทีของหลวงพิบูลฯ ว่าทหาร ทางลพบุรีจะยกมายึดพระนครบ้าง พวกทหารสนับสนุนหลวงพิบูลฯ บ้าง ล้วนแต่เป็นข่าวบั่นทอนกำสังใจของผู้ที่ไม่ใช่หลวงพิบูลฯ ทั้งสิ้นผมได้เข้าเฝ็าพระองค์เจ้าอาทิตย์ฯ ประธานผู้สำเร็จราชการแทน พระองค์ตามธรรมเนียม ท่านรับสังถามว่าจะรับเป็นนายกรัฐมนตรีหรือ ผมก็ตอบว่ารับ ท่านถามอีกว่าถ้าพวกหลวงพิบูลฯ ยกกองทัพมาตีจะทำ อย่างไร ผมก็ทูลว่า ข้าพระพุทธเจ้าต้องต่อ!'เด็ดขาดคราวนี้ เพราะเป็น หน้าที่ของข้าพระพุทธเจ้า”งสัตว์มีกระดูกสันหลัง ส“ท่านชักอีกว่า ถ้า!ไม่ได้จะทำยังไง ผมก็ทูลไปว่า ถ้า!'ไม่1ได้ก็ต้อง “ถึงกับรับลังว่า ถ้าผมไม,ยอมถอนตัว ท่านก็จะขอลาออกจาก โกยนะซี พระองค์เจ้าอาทิตย์ฯ ทรงแสดงความหนักพระทัย และทรงขอ ให้ผมถอนตัวเสีย เพราะท่านไม่กล้าจะลงพระนามแต่งตั้งให้ผมเป็นนายก รัฐมนตรี”ตำแหน่งผู้สำเร็จราชการแทพระองค์...แต่ผมจะเปลี่ยนใจเป็นอย่างอื่นก็ ไม,ได้ เพราะเมื่อได้ตัดสินใจแล้ว ก็ต้องทำไปจนถึงที่สุด”“จึงทูลว่า ข้าพระพุทธเจ้าไม่ถอน และนี่เองเป็นเหตุให้ พระองค์เจ้า อาทิตย์ฯ ยื่นใบลาออกจากตำแหน่ง สภาผู้แทนฯ ก็เลยตั้งให้หลวงประดิษฐ์ฯ เป็นผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์แต่เพียงผู้เดียวแล้วหลวงประดิษฐ์ฯ ก็ลงนามแต่งตั้งผมเป็นนายกรัฐมนตรีทันที!” หลังเข้ารับตำแหน่งนายกรัฐมนตรี นายควง อภัยวงค่โ ได้ผลักดัน พ.ร.บ.นิรโทษกรรมนักการเมืองที่ถูกจองจำด้วยข้อหาการเมืองรวมไปถึงถูก  คล้องหูราคาถูก เนรเทศปล่อยเกาะ ทั้งหมดได้รับอิสระภาพรัฐบาลของนายควงได้เปิดเสรีภาพให้แก,คนไทยดุจเดิม ด้วยการ ยกเลิกรัฐนิยมของจอมพล ป. ให้ประชาชนกินหมากพลู เปิดโอกาสให้ พ่อค้าคนจีนทำมาหากินอย่างเสรีไม่มีการบังคับในเรองการประกอบอาชีพ หลังจากพ้นตำแหน่งนายกรัฐมนตรีของจอมพล ป. เขาได้กล่าวว่า “...ในความตั้งใจของผมนั้น เมื่อได้ตกลงออกจากตำแหน่งแล้ว ก็คิดว่าจะ ไม่เข้าไปเกี่ยวข้องในเรื่องการบ้านการเมืองอีกต่อไป ผมมืเจตนาอย่างยิ่งที่ จะเปลี่ยนการดำเนินชีวิตต่อไปของผมไปในทางกสิกรรมและเลี้ยงสัตว์...” นอกจากนี้ จอมพล ป. ยังได้มีบันทึกถึงบรรณาธิการหนังสือพิมพ์ ทุกฉบับหลังจากพ้นตำแหน่งนายกฯ มีความตอนหนึ่งว่า...ผมอยากจะเอาชนะประว่ติการณ์ว่า เมื่อได้ลาออกจากตำแหน่ง นายกรัฐมนตรีแห่งประเทศไทยแล้ว ต้องออกเรื่อยไปจนตลอดชีวิต มิใช่ ลาออกเพื่อเป็นกลอุบาย หูหนวก จะหาทางเข้ารับตำแหน่งอะไรในอนาคตอีกจะ ได้เป็นการเบาใจแก่ผู้จะมาเป็นนายกรัฐมนตรีแทนผมต่อไป ในอันที่จะมื ต้องเป็นกังวลคอยสอดส่องการกระทำของนายกรัฐมนตรีเก่าว่าจะเป็นการ กระทำเพื่อหวังชิงอำนาจ...”จากนั้นจอมพล ป. อดีตนายกฯ ของเมืองไทยได้พาครอบครัวย้าย ไปอยู่ที่ลำลูกกา จ.ปทุมธานี และลงมือทำไร่เลี้ยงสัตว์ เพื่อเป็นการยืนยัน ว่าคำพูดของท่านนั้นจรีงอย่างที่พูดมา

เครื่องช่วยฟัง

วันจันทร์ที่ 21 กันยายน พ.ศ. 2558

ทางสหประชาชาติได้ให้ความสนใจกับเครื่องดักฟังอย่างมาก

ภายหลังสงครามอินโดนีจีนแล้วไทยได้วางแผนก้องกันราช อาณาจักรอย่างเร่งรีบ เนื่องจากทางภาคใต้ของเราขณะนั้นขาดแคลนทหาร จึงรีบส่งกองทัพต่างๆ ไปประจำหลายจังหวัด เช่น จังหวัดชุมพร สงขลา ปัตตานี ตรัง เครื่องติดตาม นครศรีธรรมราช จากนั้นได้สถาปนามณฑลที่ ๖ ขึ้นที่จังหวัดนครศรีธรรมราช ขณะ นั้นเราเชื่อมั่นว่าอังกฤษไม่กล้าบุกไทยเพราะติดสงครามอยู่ที่ยุโรปกับ เยอรมัน แต่ค่อนข้างมั่นใจว่าญี่ป่นต้องบุกไทยเพื่อสถาปนาระบบวงไพบูลย์ครั้นวันที่ ๖ ธันวาคม พ.ศ. ๒รr^rcr จอมพล ป. พิบุลสงครามกับ คณะได้ออกเดินทางไปตรวจดูแนวต้านทานทางศรีโสภณ ขณะเดียวกัน ณี่ปุนยื่นคำขาดกับประเทศไทย ขอผ่านไปมาเลเซียและให้ร่วมรบเมื่อนายกรัฐมนตรีไม,อยู่ จึงไม่มีใครสามารถตกลงได้ นายปรีดี พนมยงค์ ซึ่งกำลังดำรงตำแหน่งรัฐมตรีว่าการกระทรวงการคลังได้ขอให้ ญี่ปุนยับยั้งนตัวทำละลายการยกทหารเข้ามา รอไว้จนกว่าจอมพล ป. พิบูลสงคราม จะกลับ พระนครเสียก่อนแต่จอมพล ป. เดินทางโดยรถยนต์ จึงไม่สามารถจะกลับมาได้ทัน เวลา จนเวลา ๐๒.๐๐ น. ของวันที่ C ธันวาคม ๒<rc<r ฝ่ายทหารและ รัฐบาลไทยได้รับรายงานว่า ญี่ป่นได้ลำเลียงทหารขึ้นบกที่สงขลา ปัตตานี ขณะนี้ยังปะทะกันอยู่และทยอยขึ้นฝังที่ชุมพร ประจวบฯ สมุทรปราการ ตอนรุ่งสางจอมพล ป. กลับถึงพระนครเมื่อเวลา ๐๖.£๐ น. นั่นหมายถึงมีการ รบพุ่งเกือบจะ 4- ชั่วโมงแล้ว!ที่วังสวนกุหลาบ คณะรัฐมนตรีมีการโต้เถียงกันดุเดือนว่าจะรบหรือ จะยอมหยุดให้ญี่ปุนเดินทัพผ่านไป!ฝ่ายหนึ่งนำโดยนายปรีดี พนมยงค์ เสนอให้รักษาความเป็นกลาง อย่างเคร่งครัด ดักฟังราคา ถ้าประเทศใดมาเหยียบยํ่าลํ้าแดนเราจะต้องล้ตาย และ ต้องทำการต่อต้านไปตามวาจาที่ประกาศต่อคนทั่วโลกถึงความเป็นกลาง แต่จอมพล ป. พิบูลสงครามไม่เห็นด้วยที่จะให้คนไทยล้กับญี่ปุน เพราะกำลังการทหารแตกต่างกันมาก (ซึ่งซ,วงนั้นญี่ปุนเป็นมหาอำนาจ ทางการทหารเช่นเดียวกับประเทศตะวันตก)ขณะที่คณะรัฐมนตรีโต้เถียงกันอยู่นั้น จอมพล ป. ในฐานะนายก รัฐมนตรีเห็นว่าจะไม,ได้ข้อสรุปอะไร จึงกล่าวเตือนสติทุกคนว่า...“...ที,เราพูดกันอยู่ทุกวินาทีนี้มีคนต้องตาย เราจะให้หยุดหรือให้รบ ต่อไป ส่วนเรื่องอื่นนั้นไว้พูดกันทีหลัง ไม่อย่างนั้นทหารรบกันตายนี่ก็ละลาย ไปแล้วหนึ่งกองพันที่ปัตตานีและที่สมุทรปราการนั้นจะให้ล้หรีอไม่ให้ล้...” ที่ประชุมมอบหมายให้นายกฯ เป็นผู้ตัดสินใจ จอมพล ป. จึงกล่าว สรุปขึ้นว่า “...เรายังตกลงอะไรไม่ได้ แต่ควรลังหยุดยิงก่อน เพราะ!ก็แหลก แล้วเรามาเจรจาทางการฑูตกันว่าเขาจะว่าอย่างไร เราจะตัดสินใจว่าจะรบ  เครื่องดักฟังโทรศัพท์ หรือไม่รบต่อไป...”คำลังหยุดยิงออกเมื่อเวลา ๐๗.๐๐ น. และหลังจากนั้น ร:๕ นาที คณะฑูตญี่ปุนพร้อมทั้งทหารได้เดินทางมาถึงวังสวนผักกาด เพื่อพบนายก รัฐมนตรีนำโดยนายเตอิชิ ทะลุโบกามิ เอกอัครราชฑูตญี่ปุนได้ขอโทษต่อ นายกฯ ไทย ที่ยกทัพบุกรุกเข้ามา จากนั้นได้ยื่นข้อเสนอ £• ประการ คือ ... ๑. ทำสัญญาร่วมรบร่วมรุกกับญี่ปุนโดยประกาศสถานะสงครามทันที๒. ทำสัญญาเป็นพันธมิตรเฉยๆ โดยไม่ประกาศสถานะสงคราม ๓. ยอมให้ญี่ปุนผ่านทางไปโดยไม,ต้องทำสัญญา ในการนี้ญี่ปุน ยอมให้สัญญาเป็นลายลักษณ์อักษรว่า จะเคารพเอกราชและอธิปไตย ของไทย

เครื่องติดตามในรถยนต์

การสื่อสารที่ต้องใช้สัญญาณเชื่อมต่อ

รัฐบาลได้ยื่นบันทึกเกี่ยวกับการเรียกร้องดินแดนคืนจากฝรั่งเศส โดยการยื่นข้อเสนอ ๓ ข้อ ให้แก่ฝรั่งเศสคือ ปันเด้น'พรมแดน'ไน ลำนํ้าโขงคืนให้ไทย คืนตอนหลวงพระบางกับตอนปากเซประการสุดท้าย ยอมให้ประกันว่า แคว้นลาวซึ่งเดิมเป็นราช อาณาจักรไทยนั้น ถ้าหากจะหลุดจากการปกครองของฝรั่งเศสไปแล้วต้อง ยกคืนให้ไทยแต่ฝรั่งเศส เครื่องดักฟังมือหนึ่ง ยอมรับข้อเสนอนี้ไม่ได้ ทั้งสองฝ่ายเตรียมกำลังรบอยู่ พร้อมไปตลอดชายแดใวภาคอีสานตะวันออก ฝ่ายไทยได้ประกาศกฏอัยการ ศึก ๒ร: จังหวัด และประกาศสถานะสงครามกับอินโดจีนฝรั่งเศสเมื่อวันที่ ๗ มกราคม ๒ร:car และแล้วการพุ่งรบได้เกิดขึ้นอย่างดุดัน รัฐบาลหลวง พิบูลฯ ได้ออกแถลงการณ์พอมีใจความว่า“...การล้รบระหว่างไทยกับอินโดจีนฝรั่งเศสได้ดำเนินต,อไป ไฮโดรเจนคลอไรด์ ก็เป็นกรดได้เช่นกัน ก ท่ามกลางความมีชัยของทหารไทย ซึ่งได้รุกเข้านครจำปาศักดิ้ หลวงพระ บาง และมณฑลบูรพาเดิม”การรบยุติลงภายใน ๑ร: วัน โดยนายมัตสุโอกะ รัฐมนตรีกระทรวง ต่างประเทศของญี่ปุนเป็นผูไกล่เกลี่ย และมีการประชุมกัน ณ เรือรบญี่ปุน ซึ่งจอดอยู่นอกอ่าวเมืองไช่ง่อนได้ข้อตกลงว่า...ฝรั่งเศสยอมยกดินแดนด้านหลวงพระบาง ฝ่งทางขวา แม่นำโขงนครจำปาดักดี้  กับที่ท่าสามเหลี่ยมฝ่งฃวา และอาณาเจตมณฑล บูรพาเดิมบางลํวน มีเมืองศรีโสภณ มงคลบุรี และพระตะบอง อุปกรณ์ติดตัวไร้สาย ให้กับไทยช่วงนิซื่อเสียงของหลวงพิบูลฯ โด่งดังราวกับพลุแตกเพราะมีชัยชนะ เหนือฝรั่งเศส หลวงพิบูลฯ ได้กล่าวปลุกใจกับประชาชนอยู่เสมอเช่นเพลิง ภผา fll ๔๗ “...ประชาชนชาวไทยตกอยู่ในฐานะจำเป็นที่จะต้องต่อล้จนกว่า จะหมดลมหายใจ ถึง?โตรูจะมีอำนาจอย่างใหญ่หลวงเพียงไรก็ตาม เมื่อ เกิดเป็นไทยแล้วต้องเจนสิ้นกำลัง ชาติไทยย่อมรู้สึกว่าเป็นชาติเล็ก ไม่มี กำลังอำนาจมากมาย แต่ก็ยินดียอมตายด้วยความเป็นไทย ดีกว่าอยู่ด้วย ความเป็นทาส...”อย่าง1ไรก็ดี การที่ประเทศณี่ปุนเข้ามาเป็นตัวประสานศึกอินโดจีนก็ เนื่องจากญี่ปุนเตรียมพร้อมจะจุดเพลิงสงครามชื้นในเอเชีย ไทยและอินโด จีนเป็นฐานทัพและพลังเศรษฐกิจสงครามญี่ปุนในเวลาต่อไปขณะที่สงครามโลกครั้งที่ ๒ แผ่ฃยายอยู่ทั่วยุโรปนั้น ฝ่ายไทย จีพีเอสระยะไกล   ญี่ปุน และอังกฤษ ทำสัญญาไม่รุกรานต่อกัน ซึ่งเรื่องนี้หลวงพิบูลฯ ได้กล่าวไว้ว่า...ด้านหนึ่ง เราทำสัญญาไม่รุกรานไว้กับอังกฤษ และอีกด้านหนึ่ง เราก็มีสัญญาจำเริญทางพระราชไมตรีซึ่งเท่ากับทำสัญญาไม่รุกรานไว้กับ ญี่ป่นแล้ว ถ้ามหามิตรทั้งสองเราไม่เชื่อว่าสัญญาเป็นกระดาษ ประเทศไทย ก็จะต้องปลอดภัยต่อการรุกราน”ในวันที่ (T ธ.ค. ๒src^sr หลวงพิบูลสงคราม ได้กราบถวาย บังคมลาออกจากบรรดาศักดิ้ ในขณะที่เขาได้รับยศพลเอก (และได้รับ

เครื่องติดตามตัวบุคคล

วันอาทิตย์ที่ 20 กันยายน พ.ศ. 2558

องค์กรหนึ่งร่วมปลุกระดมพนักงานให้มุ่งมั่นในสินค้าที่ผลิตเพื่อให้ได้คุณภาพ

“พี่... พี่เมื่อคืนปีผู้หญิงคนหนึ่งมาหาผม สวยจริงๆ ครับ สวยกว่าที่ผมเคย ๆ เห็นมาซะอีก เธอมานอนคุยกบผมจนเกือบ สว่างแน่ะ แปลกจริงนะครับ เธอไม่ได้นุ่งผ้าเลยละพี่”ข้าพเจ้าสะดุดใจเรื่องที่ดำฝัน รวมทั้งสิ่งประหลาด  ดักฟังจิ๋ว  ที่เกิด กับเขาช่างเหมือนกับความแปลกประหลาดที่ผู้หลักผูใหญ่เล่าให้ ฟังเรื่องผีปีศาจและเจ้าที่เจ้าทาง แต่ข้าพเจ้าเดาว่าน่ะจะเป็นอย่าง หลังมากกว่า ข้าพเจ้าเลยจุดธูปไปปักกลางแจ้งแล้วอธิษฐานว่า ถ้าเป็นเจ้าที่จริงๆ ขอให้ช่วยดลใจให้นายจ้างเอาเงินมาให้บ้าง เพราะกำลังเดือดร้อนเต็มที ถ้าได้เงินมาแล้วจะสร้างศาลให้ จะ ถวายของกิน ของใช้และเสื้อผ้าให้ครบเลย น่าแปลกแค่สามวันจากนั้นคำอธิษฐานของข้าพเจ้าก็เห็นผล!นายจ้างน่าเงินที่ติดค้างคนงานรวมทั้งส่วนของคนคุมอย่าง พวกเรากับทั้งเสบียงอาหารที่เขาเคยขี้เหนียวเหลือเกินมาให้มาก มาย ข้าพเจ้าขนลุกเกรียวคิดถึงความศักดิ๙สิฑธี้ของเจ้าที่เจ้าทาง เลยรีบไปหาซื้อของกินของใช้พร้อมทั้งซื้อผ้า จ้างช่างที่ตลาดนั้น เองตัดเย็บเป็นเสื้อผ้ากับผ้านุ่งอย่างเร่งด่วนเมื่อกลับมาถึงที่ก็ให้ คนงานช่วยกันสร้างศาลให้ แล้วข้าพเจ้าก็รีบจัดการถวายเครื่อง เซ่นและของกินด่าง ๆ ที่จัดหามาเซ่นสรวงตามที่บนบานเอาไว้ทุก อย่าง
ตกดึกคืนนั้นเองขณะที่ข้าพเจ้ากำลังเคลิ้มจะหลับก็ไตัเห็น เงาผู้หญิงคนหนึ่งค่อยๆข้ดเจนขึ้นตามลำตับปรากฏตัวในความ ฝันต้องยอมรับว่าเธอเป็นคนสวยจริง ๆ ราคาเครื่องดักฟัง สวยอย่างที่คนพื้นบ้าน นั้นไม่น่าจะสวยได้เท่านี้ รูปร่างก็สมส่วนและผิวพรรณผ่องใสบอกไม่ได้เหมือนกันว่าทำไมข้าพเจ้าถึงนึกกลัวจนต้องนอน ตัวแข็งทื่อแต่หญิงสาวคนนั้นยิ้มให้ข้าพเจ้าอย่างอ่อนโยน เธอขอบใจ ที่ข้าพเจ้าหาของกินของใช้มาให้และยังสร้างบ้านให้อยู่ ที่ลำค้ญ หาผ้ามาให้เธอนุ่งอีกด้วย เพราะเธออดอยากหิวโหยมานาน ไม่ เทคโนโลยีเคยมีใครทำให้เธอย่างนี้มาก่อน คนส่วนใหญ่ที่เธอพยายามติดต่อ ด้วยด่างก็รีบหนีด้วยความกลัวไปหมดเสียก่อน เมื่อข้าพเจ้าถามว่า ทำไมเธอจึงไม่มีเสื้อผ้าใส่ เธอร้องไห้ แล้วเล่าว่า เธอเองเคยมาถางป่าทำไร่อยู่กับครอบครัวแถวนี้กัน หนึ่งออกมาทำไร่พร้อมกับพ่อ แม่ แต่เธอเดินออกมาห่างจากหมู่ พี่น้องมากเกินไป เคราะห์ร้ายไปพบกับโจรกลุ่มหนึ่ง มันชกเธอ จนสิ้นสติ ลากเธอไปรุมข่มขืนแล้วฆ่า เธอจึงไม่มีเสื้อผ้าใส่ตั้งแต่ นั้นส่วนที่ดำน้องชายมีอาการแปลก ๆ เธอว่าเพราะเขาจิตอ่อน ไหวมาก และพยายามต่อต้านแบบไร้ทิศทาง จึงเป็นเช่นนั้น“ข้าจะตองไปแล้ว”หญิงคน'นั้นกล่าวลา “ขอบใจมาก ที่ช่วย เหลือ แต่เจ้ากบพี่ๆ น้องๆ ควรออกไปจากที่นี่เสีย เจ้ากำลังจะ ปีภ'ยร้ายแรง ไปเสียจำไว้.... ไปเสีย’ จีพีเอสไร้สาย ’ แล้วร่างของเธอค่อน ๆ เลือน หายไปรุ่งเช้าข้าพเจ้าเล่าความฝันให้สามีฟัง ดูเขาเงียบไป ถน้ดใจ ข้าพเจ้ารู้ว่าคำเตือนของหญิงคนนั้นสะกิดใจเขา อย่างแรงเรารอดูเหตุการณ์อยู่อีกสองเดือน น้บเป็นสองเดือนที่ ทรมานมาก นายจ้างที่เคยนำเงินและเสบียงมาให้เราอย่างมาก มายเมื่อสองเดือนก่อน คราวนี้กลับหายหน้าไปอย่างอัศจรรย์ พวกเราและคนงานต้องกลับมาอยู่ในสภาพเดิมอีก คือต้องเก็บผ้ก

เครื่องติดตามตัวบุคคล

ลูกจ้างได้งบจากหัวหน้าให้ไปซื้อแบตเตรี่มาใช้ในงานอุตสาหกรรม

อาชีพการทำมาหากินที่ค่อนข้างtเดเคืองทำให้ข้าพเจ้าได้พบ เจอกับเรื่องแปลกประหลาดจนแทบเหลือเชื่ออย่างที่จะ เล่าต่อไปนี้ปีนั้นเป็นปี 2520 ข้าพเจ้ากับสามีต้องรับหน้าที่คุมคนงาน เข้าไปทำไร่ในป่าแถบเมืองกาญจน!'ร่ที่ว่าอยู่ในป่าลึกต้องบุกเข้า จีพีเอสติดตามรถ ไปเป็นสิบกิโล กันดารทั้งนํ้าทั้งไฟต้องอาศัยตะเกียงลานและนํ้า จากลำธารอย่างที่เราไม่เคยมาก่อน ตกกลางคืนป่าเงียบสงัดน่า กลัว เสียงลัตว์ป่าร้องอยู่ไกลๆ บรรยากาศแบบนี้ทำให้ใม่มีใคร กล้าเสี่ยงออกไปเดินนอกค่ายนอนกันเลยไปทำงานกันคราวนี้ ข้าพเจ้าน้บเป็นผู้หญิงคนเดียวในหมู่ คนงานชายทั้งหมดร่วม ๆ 50 คน ยังดีที่มีสามีและ'พี่,ชาย น้องชาย ของสามีไปด้วย ทำให้อุ่นใจว่าอย่างน้อยยังไม่มีกัยจากคนงาน ด้วยกัน แต่ความลำบากใด ๆ ที่เกิดขึ้นในระหว่างการทำงานหรือ การดำรงชีวิต ยังไม่ใช่ปัญหาใหญ่เท่ากับเรื่องเงิน เพราะว่า วิทยาศาสตร์นายจ้างที่ว่าจ้างเราเข้าไปคุมงานที่นี่สิ เริ่มหายหน้าไปหลังจาก เดือนแรกผ่านไปเท่านั้น เสบียงอาหารที่จะต้องนำมาให้ก็เริ่มขาด แคลน ดูเหมือนเขาต้องการให้เราท่างานให้เพื่อเก็บดอกผลโดย ไม่อยากจ่ายอะไรมากเกินไป คนงานที่เหนื่อยและหิว แถมไม่ไต้ เงินค่าจ้างตามเวลาเริ่มพูดคุยกันด้วยความไม่พอใจเค้าของความยุ่งยากเริ่มก่อตัวขึ้นมารำไรช่วงนี้เอง “ดำ” น้องชายของสามีเริ่มมีอาการแปลก ๆมันเริ่มขึ้นในเย็นวันหนึ่งเมื่อข้าพเจ้าสามีและพี่ชายของเขา นั้งกินข้าวเย็นอยู่ด้วยกัน ดำซึ่งปกติเป็นคนนึ่งขรึมและเก็บตัว เดินมาหาพวกเราจากสำรับที่ปกติเขากินอยู่อีกที่หนึ่งร้องขอร่วม วงกับเราด้วย เขาลงนั้งข้ดสมาธิ  ดักฟังในรถยนต์ กินเอาๆ ยังกับอดข้าวมา หลายวันเสร็จแล้วก็นั้งเฉยไม่พูดไม่คุยไม่ลุกขึ้นมาช่วยเก็บสำ- รับ ข้าพเจ้าไม่ว่าอะไร เก็บถ้วยเก็บชามเข้าไปล้าง แต่ก็นึกแปลก ใจเหลียวมามองดำ ภาพของเขาขณะนั้นเล่นเอาข้าพเจ้าตกใจ เดียว เพราะไม่ว่าหน้าตาหรือเนื้อต้วลูดำคลํ้าอย่างประหลาด ดำ ราวกับจะเป็นตอตะโกจนมองจากแสงไฟในตะเกียงแทบไม่เห็น ทั้ง ๆ ที่ปกติเขาเป็นคนผิวเข้มอมเหลืองเท่านั้น“ดำ    เอ็งไม่สบายหรือเปล่านั่น”ข้าพเจ้าส่งเสียงถาม แต่เขาเอาแต่นิง ตกดึกคืนนั้นเมื่อเรานอนหลับสนิทกันหมด ก็ต้องตกใจตื่น เพราะเสียงดิ้นทุรนทุรายของดำตะเกียกตะกายมาที่มุ้งเรา“พี่ โอ๊ย    พี่ ช่วยผมที ใครไม่รู้จะเข้ามาในตัวผม น่ากลัวเหลือเกิน พี่....ไม่นะ ไม่’’สามีของข้าพเจ้าได้สติก่อนเพื่อนถอดสร้อยคอของเขา คล้องหมับเข้าที่ฅอน้อง ดำหยุดดิ้นรนทันควันแสดงอาการหอบเหนื่อย แล้วก็หลับไปในที่สุดอาการแปลกๆ ของเขาหายไปสองสามคืน แต่แล้วมันก็ กลับมาอีก จนเราแทบจะชินอยู่ต่อมาวันหนึ่ง ข้าพเจ้าเข้าไปจ่ายตลาดในเมือง โดยเอา ดำซ้อนท้ายไปเป็นเพื่อนด้วย ตอนนั้นนายจ้างเอารถเครื่องเก่า ค้นหนึ่งมาไว่ให้ใข้ ท้าให้เรามีความสะดวกมากขึ้นบ้างขากลับเรา ขี่รถกันมาช้าๆ จนมาถึงต้นนั้าตกเท่านั้น ดำกระโดดผลุงลงจาก รถ ดำไม่ยอมท่าเดียว เขาลอยคอห่างออกไปเรื่อยๆ ปาก ตะโกนให้ข้าพเจ้ากลับไปก่อน อุปกรณ์ติดตาม เดี๋ยวเขาจะลอยคอตามนํ้ากลับไป ถึงที่พักซึ่งก็ตื้งอยู่ลำธารสายเดียวกันนี้เหมือนกัน ข้าพเจ้าใจไม่ดี นึกไม่ออกว่าจะตอบสามีว่าอย่างไร ที่น้องของเขาไม่ได้กลับมา ด้วยแต่น่าอัศจรรย์ที่สุดที่ดำมาถึงที่พักก่อนหน้าข้าพเจ้าด้วยซํ้า ไป ข้าพเจ้างงมาก แต่ก็ไม่ได้เอ่ยปากถามใคร คืนนั้นดำหลับสนิท อย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน พอตื่นเข้าเท่านั้นเขารีบมาหาข้าพเจ้า ละลาละลักเล่าความฝันให้ฟัง

เครื่องติดตามรถยนต์

วันพฤหัสบดีที่ 17 กันยายน พ.ศ. 2558

อุปสรรคในการทำงานและอำนาจหน้าที่ในการสั่งการ

“นํ้าตาแกไม่มีทางเปลี่ยนใจฉันได้หรอก” เจเน็ตสำทับ “เฮอร์คิวลิส จะต้องตกเป็นทาสของฉันอีก ด้วยความช่วยเหลือ จากแก ฮ่ะ ฮ่ะ ฮ่ะ”วันคืนผ่านไปแนนซี่กลายเป็นผู้หญิงก้าวร้าวและวาจาระ- รานต่อเฮอร์คิวลิสทั้งคู่เริ่มมีปากเสียงแมในเรื่องเล็กน้อย“คุณเกิดเป็นอะไรขึ้นมานะ? คุณทำเหมือนพี่สาวคุณไม่มี ผิด ดักฟังในรถยนต์ ” เขาขึ้นเสียงในการทะเลาะก้นคราวหนึ่ง “ผมยอมตายดีกว่า จะตกเป็นทาสของคุณ”พูดจบก็ผลุนผลันออกจากบ้านไป และเป็นครั้งสุดท้ายที่ แนนซี่เห็นเขาขณะมีชีวิต ต่อมามีคนพบร่างเฮอร์คิวลิสที่ตีนหน้า ผาติดทะเลถึงเฮอร์คิวลิสที่รักของแกจะตายไปแล้ว แต่แกก็จะไม่อยู่ ตัวคนเดียวหรอก แม่น้องสาวที่รัก ฉันจะคอยวนเวียนอยู่เป็น เพื่อนแกตลอดเวลาดีมั้ย?” เจเน็ตบอกแนนซี่ตามด้วยเสียงหัว เราะเย้ยหยันสองสามวันต่อมา แนนซี่แขวนคอตาย! ก้อนหนอาอคนงานไทยที่เข้ามาทำงานในสิงคโปร์ส่วนใหญ่มาจาก จ้งหวัดในชนบทของประเทศไทยส่วนมากไม่รู้ภาษาอ้งกฤษ หรือรู้แบบงู ๆ ปลา ๆ พวกเขาชอบดื่มเหล้า จระเข้พอเมาเข้าไป แล้วม้กมีเรื่องทะเลาะวิวาทกันเสมอ และบางครั้งการ ทะเลาะนำไปสู่การเสียเลือดเนื้อหรือแม้กระทั่งชีวิตผมมีอาชีพขับรถบลูโดเซอร์ได้เข้าไปเกี่ยวข้องกับคนงาน ไทยเมื่อตอนที่ผมถูกส่งไปทำงานเคลียร์พื้นที่และปรับหน้าดินไน เขตพัฒนาที่ดินที่ดินแปลงนั้นมีด้นมะม่วงด้นหนึ่งใต้ด้นมีศาลพระภูมิพื้นที่ ทั้งหมดถูกรถแทรกเตอร์ไถราบหมดแล้ว เหลือเพียงโคกดินตรง กลางที่มีด้นมะม่วงแผ่กิ่งก้านปกคลุมให้เงาแก่ศาลพระภูมิคนงานคนก่อนพยายามใช้รถบลูโดเซอร์ไถโคก และด้น มะม่วงใหโค่น แต่ไม่สำเร็จ แถมตัวเองหวุดหวิดจะเสียชีวิตเนื่อง จีพีเอสราคา จากรถบลูโดเซอร์พลิกควาถึงสองครั้งสองหน เลยไม่ยอมทำอะไร กับโคกตรงนั้นอีก เขาแจ้งเรื่องนี้กับหัวหน้างาน และมีปากเสียง กันอย่างรุนแรง จนท้ายที่สุดเขาขอลาออก และผมก็ถูกจ้างเข้า ไปทำงานแทนวันแรกที่ผมเข้าไปทำงานคนงานไทยมองผมอย่างระแวง สงสัย และจับกลุ่มซุบซิบกัน หักหนึ่ง มีคนงานไทยคนหนึ่งเดิน เข้ามาหาผมด้วยภาษาอังกฤษแบบกระท่อนกระแท่น เขาเล่าเรื่อง ของคนงานข้บรถบลูโดเซอร์คนก่อนให้ผมฟัง เขาว่าหัวหน้าไซด์ เคยได้ไปนิมนต์พระท้องถิ่นมาทำพิธีเซ่นไหว้ขอขมาลาโทษพระ ภูมิเจ้าที่ที่เราทำงานกันอยู่ เพื่อสร้างขวัญและกำลังใจแก่คนงาน เขาทำสีหน้ายิ้มเยาะก่อนจะกล่าวตบท้ายว่า การอัญเชิญพระภูมิ เจ้าที่ออกไปอยู่ที่อื่นไม่ใช่นึกอยากจะย้ายก็ย้ายไปดื้อ ๆ ต้องมีการ ทำพิธีอัญเชิญอย่างถูกต้อง และมีแต่พระไทยเท่านั้นที่ทำไต้มันเป็นการทำงานวันแรกของผม ผมจึงตั้ง ใจ ชุดดักฟังระยะไกล ลุยงานเต็มที่ โดยไม่สนใจอะไรทั้งสิ้น ไม่ว่าจะมีผีสางเทวดาหรือเจ้าที่เจ้าทาง หรือไม่ก็ตาม หลังจากหัวหน้าคุมงานเอาศาลพระภูมิออกแล้ว ผม ก็ข้บเจ้ารถบลูโดเซอร์ตันต้นมะม่วงย้กษ์โค่นล้มลง แล้วจึงไถเนิน ดินเสียราบเรียบ มีหินก้อนหนึ่งหนักประมาณ 500 กิโลกรัม ผุด ขึ้นมาจากบริเวณที่เป็นโคก ผมจึงเอารถไถออกไปไว้ที่ขอบพื้นที่ โล่ง รอให้รถบรรทุกมาขนเอาไปทิ้ง

เครื่องติดตามตัวบุคคล

วันพุธที่ 16 กันยายน พ.ศ. 2558

สำนักงานแห่งหนึ่งได้จ้างนักสืบไปทำงานแต่ให้นักสืบอีกคนไปตรวจสอบ

โดยให้เหตุผลว่า “คนดีทำเพื่อประเทศชาติ ...ทำไมจะอยู่ไม่ได้” เขายังระบุอีกว่า เสียงรื่าลือดังกล่าวได้ยินมานาน และได้ยินได้ฟัง กิตติศัพท์เรื่องผี แต่ก็มั่นใจว่าไม่เคยกลัวผี และเกิดมาก็ไม่รู้จักผีอีกด้วย ที่สำคัญ ตนเป็นชายชาติทหาร เป็นผู้นำประเทศทำไมต้องเชื่อต่อ เรื่องไร้สาระเช่นนี้แต่การเข้ามาทำหน้าที่รับใช้พี่น้องประชาชน  ดักฟังในรถยนต์ขนาดเล็ก   ด้วยความชื่อสัตย์สุจริต ให้ประเทศชาติเดินหน้าได้ต่างหาก เป็นสิ่งที่ ทุกคนอยากเห็น และหากทำ ดีก็ต้องได้ดี แต่ก่อนที่พลเอกชวลิต จะเข้าไปอยู่ที่บ้านพิษณุโลก เขาได้ให้ช่าง ตกแต่ง ปรับปรุง โดยใช้งบประมาณของสำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ซึ่งเป็นเงินสูงถึงจำนวน 18 ล้านบาท เพี่อให้ฟานได้เข้าไปอยู่อย่างสมศักดิ'ศรีแต่ในเบื้องลึกแล้ว ภริยาของพลเอกชวลิต คือ คุณหญิงเครือวัลย์ ยงใจยุทธ มีความเชื่อเรื่อง ดวง ฮวงจุ้ย และไสยศาสตร์มาก จึงหาสิ่งของที่ เป็นเคล็ดเกร็ดมงคล และหาพระดีๆ นั้ามนต์เพี่อขจัดปัดเปาเพศภัย ให้กับ นายกฯ จิ๋ว ในช่วงนั้นที่ผ่านมา นับตั้งแต่พลเอกเปรมเป็นนายกแล้วท่านก็พักที่บ้านพิษณุโลกไม่เกิน 3 ครั้ง และหลังจากใรั้นก็แทบไม่มีนายกคนใดเข้า มาพักเลย อย่างไรก็ดีการที่ นายกฯ ชวลิต มีโครงการเข้ามาพำนักที่ นี่ ถือได้ว่าเป็นการพลิกที่เนคืน?วิต?วาให้แก่บ้านพิษณุโลก หลังจาก ที่นี่หงอยเหงาเปล่าเปลี่ยวมานานช่วงก่อนนั้นได้มีผู้สังเกตการณ์จากภายนอกบ้านพิษณุโลก ว่ายังคง เงียบเหงามีเพียงตำรวจสันติบาลผลัดกันเข้าเวรครั้งละหนึ่งนายเท่านั้น ลอดส่ายลายตาไปรอบๆ บ้านที่ร่มครึ้มไปด้วยไม้ใหญ่น้อยก็ยังคงรกไปด้วย เถาวัลย์ พงหญ้า และเศษใบไม้แห้ง ส่วนตัวตึกบริวารภายในค่อนข้างทรุด โทรมลึกเข้าไปด้านใน แม้จะดูโออ่าแต่ก็ดูเงียบเชียบ วังเวง ไร้แววผู้คน มีเพียง รถเบนช์คันเก่าๆ จอดนิ่งสงบ อยู่เพียงลำพัง  สอบถามคนใกล้ๆ ก็ได้ความว่า นอกจากแม่บ้านในตัวตึกและคนสวนจำนวนหนึ่งแล้วก็ไม่มีใครอยู่ที่นึ่อีกเลยถึงแม้ว่าตัวบ้านและองค์ประกอบภายนอกจะร่วงโรยราก็ตาม แต่ ความละเอียดอ่อนอันประณีต ที่ประดับประดาตามส่วนต่างๆ ของบ้าน ยัง ดูเป็นมนต์เสน่ห้ให้กับผู้พบเห็นหรือได้เยี่ยมชม ดักฟังไร้สายราคาถูก บุตรชายของพระยาอนิรุทธ- เทวา พลเอกเทื่เองเฉลย อนิรุทธเทวา ได้เล่ารายละเอียดของตึกใหญ่ว่า ตึกนี้จะถูกใช้เป็นที่พำนักของนายกรัฐมนตรีแต่ที่ผ่านมาไม่มีใครเข้ามาอยู่เลย เมื่อก้าวเข้าสู่บันไดหินอ่อนหน้ามุขเข้าประตูตึกใหญ่ก็จะเป็นห้องโถง มีเสา หินอ่อนคู่แรกบนพื้นไม้สักแบบปาเก้มีลวดลายประณีตมันวับ ด้านซ้ายเป็น ห้องรับแขกใหญ่ที่วิจิตรบรรจงมาก มีบ้นไดสองแพร่งประกอบอ่างหินอ่อน เล็กๆ มีนั้าไหลจากปากหัวสิงห์ที่แกะสลักได้อย่างงดงามเดินลงสู่พื้นห้องรับแขกกว้าง ซึ่งสามารถใช้เป็นห้องเต้นรำลำหรับ งานราตรีสโมสรที่ผ่านมา พลเอก เทื่เองเฉลยเล่าว่าเมื่อครั้งที่พลเอกเปรม ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีและเริ่มใช้บ้านพักประจำตำแหน่ง นายกฯ เขา อาถรรพ์ บ้านพิษญโลกปารณย์ คชพร    30 ได้เดินทางไปต้อนรับ ในฐานะผู้บังคับบัญชาด้วยการเล่นเปียนโนที่อยู่กลางใจ บ้านเป็นการต้อนรับ แต่ถึงกระนั้น!เมื่อถามพลเอกเทื่เองเฉลย1ว่า มีเสียงลือว่าที่นี่ผีดุ มีคนเคยเห็นม้า ลึกลับออกมาวิ่งและร้องในยามวิกาลบ่อยครั้ง อุปกรณ์ติดตาม  เรื่องนี้พลเอกเพื้องเฉลยอมยิ้ม พร้อมกล่าวยืนยันอีกครั้งว่าไม่มีอะไรเพราะเคยอยู่ที่นี่มาก็หลายปีม้าทองแดง ริมลนามหน้าตึกที่ว่าเป็นต้นเหตุ ของเหตุพิลึกพิลั่นตนก็เคยขี่เล่นเสมอใน วัยเด็ก จึงยืนยันได้ว่าที่นี่ไม่มีอะไรทำนองนั้นในบรรดาห้องหลายสิบห้องของ บ้านพิษณุโลกนั้น มีความ

เครื่องติดตามรถยนต์

วันจันทร์ที่ 14 กันยายน พ.ศ. 2558

สมัยนี้มีการเปิดการเรียนการสอนโรงเรียนนักสืบโดยเฉพาะทาง

“ง,,น! เอาเป็นว่าตกลงตามนี้นะ 'หวกเราไปรถไฟกัน ไปเก็บเสื้อผ้าที'หอ กันเถอะ ข้าคิดถึงบ้านจะแย่'อยู่1แล้ว”'ริยะ'มอกเพื่อนๆ แล้วทั้งหมดก็พากันเดิน ทางกลับหอพัก เก็บเสือผ้าพร้อมของใช้ที่จำเป็นลงกระเป๋า แล้วพากันออกเดิน ทางไปยังสถานีรถไฟทันที เมื่อไปถึงสถานีรถไฟกำลังจะออกจากชานชาลา เครื่องจีพีเอสราคาถูก  ทั้งหมดจึงรีบไปซื้อตั๋วเสร็จแล้วก็พากันขึ้นนั่งบนรถไฟโดยทั้งหมดเลือกที่นั่ง โบกี้สุดท้าย เพราะจะได้เห็นธรรมชาติ ถนัดตาทั้งสองช้างนกลังเกตเห็นจ้อยนั่งนิ่งเงียบ ไม่ค่อยพูดจากับใคร มือจับพนักรถไฟนิ่ง จึงพูดขึ้นลอยๆ ว่า “ในจำนวนพวกเรา 5 คน มีใครไม่เคยชื้นนั่งรถไฟบ้างวะ” เงียบไม่มืเสืยงตอบจากใคร นกจึงหัวเราะเบาๆ แล้วหันไปบอกเพื่อนๆ ว่าเย้ย! พวกเอ็งลองดุเไอ้จ้อยซิ ส''งลัยขี้,เยียวราดแล้วนั่ง นั่งตัวแข้งเชียว” ทุกคนหันไปมองเห็นอาการของจ้อยก็พากันหัวเราะอย่างขบขันจ้อยหันไปค้อน นกควับใหญ่บอกเสียงอ่อยๆก็ช้าเคยนั่งตอนที่รถไฟมันยังไม่วิ่งนิ่หว่า รถวิ่งอย่างบรรยากาศของโลกนี้ช้าไม่เคยนั่งหรอก กลัวมันตกรางว่ะ เห็นในข่าวบ่อยๆ”โธ่! ไอ้จ้อย ทีเมื่อกี้ไอ้นกถามละก็นั่งเงียบเชียวนะ ทีอย่างนี้มาทำเป็น พูดดี” ปานอดที่จะแซวจ้อยไม่ได้เออ! มึงเก่ง ทีหลังมึงอย่ามาขอให้กูช่วยทำรายงานอีกนะ กูไม่ช่วยมึง จรงๆ ด้วย" จ้อยพูดงอนๆโธ่! โธ่! พูดเล่นน่าเพื่อนทำเป็นน้อยใจไปได้” ปานพูดพลางกอดคอ เพื่อนไว้แน่นทั้ง 5 คนนั่งคุยกันอย่างสนุกสนาน พร้อมกับชมธรรมชาติสองช้างทาง อย่างเพลิดเพลิน พร้อมทั้งช่วยกันร้องเพลงอย่างสนุกสนาน ดักฟังทางโทรศัพท์  เพราะภายในโบกี้ รถไฟโบกี้นี้ ผู้โดยสารส่วนมากเป็นนักสีกษาเป็นส่วนใหญ่ ฉะนั้นบรรยากาศใน รถไฟขบวนนี้ จึงเต็มไปด้วยเสืยงเพลงและเสียงหัวเราะ ครั้นเมื่อรถไฟถึงอำ๓อ ไทรโยค รียะบอกกับเพื่อนๆ ว่าถ้าใครหิว ก็ใปหาอะไรกินก่อนนะ ข้าจะไปดูซิว่า พ่อมารับแล้วหรือยัง” “เออ! ไปเหอะ เดี๋ยวพวกข้าจะหาอะไรกินก่อน เอ็งไม่ต้องเป็นห่วง” ทอง บอกริยะ พร้อมหันไปถามเพื่อนๆ“ใครหิวก็ตามมา ใครไม่หิวก็คอยไอ้ยะมันอยู่'ตรงนี่แหละ”พูดพลางเดิ1น นำหน้าทุกคนไป ปรากฏว่าทุกคนหิวกันทั้งหมด เมื่อจัดการกับอาหารเรียบร้อย แล้ว จึงได้ออกมานั่งรอริยะที่ศาลาพักผู้โดยสาร ครู่หนึ่งริยะก็เดินมาพร้อมกับ ชายสูงวัยคนหนึ่ง ซึ่งเมื่อมาถึงริยะก็แนะนำทั้งหมดให้พ่อรู้จัก “พ่อครับ นี่ ทอง ปาน นก จ้อย ตรัง ครับ” ทุกคนยกมือไหว้ทำความเคารพ พ่อของริยะยกมือ ตอบรับ พร้อมกล่าวว่า “สวัสดีลูก นี่! ห้องเดียว รุ่นเดียวกับยะทั้งหมดเลยหรือ” เครื่องดักฟังไร้สาย “ครับพ่อ รุ่นเดียวกัน คณะเดียวกันทั้งหมดเลยครับ”'ริยะตอบแทนเพื่อน “แล้วนี่! กินอะไรกันหรือยัง” พ่อของริยะถามโดยไม่เจาะจงว่าถามใคร “เพิ่งจะทานข้าวกันเมื่อซักค2นีเองครับ” นกเป็นคนตอบคำถาม รัน เดี๋ยวค่อยไปคุยกันต่อที่บ้าน ไม่£ว่าปานนี้แม่เขาจัดเตรียมข้าวของ เรียบร้อยหรือยัง”พ่อบอกพลางเดิน'นำหน้ามาที่รถกระบะกลางเก่ากลาง'ใหม่ คัน หนึ่ง แล้วออกเดินทางไปยังจุดหมายท้นที

เครื่องติดตามรถยนต์

วันอาทิตย์ที่ 13 กันยายน พ.ศ. 2558

อิทธิพลของลูกค้าและพฤติกรรมของลูกค้าที่เปลี่ยนแปลงไปจากเดิม

เคยเห็นมนุษย์คนใดซีดเท่านี้มาก่อนราวกับว่าสีเลือดนั้นถูกสูบไปหมดจาก ร่างกาย แต่ยังคงมีเค้าหน้าเดิมๆ อยู่ ผมหยุดนิ่งลมหายใจแทบหยุดเต้น ตา เบิกค้าง ขนลุกยู่ มือเท้าเย็นเฉียบ พูดออกมาอย่างยากเย็นแสนเข็ญ “พี่... พี,...แม้น... ติดตามขนาดเล็ก ”พูดจบผมก็เผ่นแนบกลับมาที่รถไฟฉายหลุดมือไปตอนไหนไม่ทราบ คร่อมรถได้ผมก็หลับหูหลับตาเร่งความเร็วของรถเสียงดังลั่น ทุ่งฉิวออกจาก บริเวณนั้น โดยไม่ไยดีกับร่างของแม้นที่ยันกายลุกขึ้นยืนโบกไม้โบกมือหยอยๆ ผมกลับเข้าบ้านแล้วแต่ผมบนศีรษะยังคงชี้เด่อยู่เลย เข้าบ้านได้ผมรีบ ก้มลงกราบพระบนหิ้งทำใจให้สงบอยู่พักหนึ่ง เมื่อรู้สีกว่าดีขึ้นมาบ้าง ผมจึงลุก ขึ้นเดินตรงไปยังตู้เย็นหยิบบรั่นดีในตู้ หยิบแก้วติดมือมา ทิ้งตัวลงบนโซฟา อย่างคนสิ้นเรี่ยวแรง ผมเทบรั่นดีแล้วปล่อยให้นั้าสีดำไหลผ่านลำคอลงไป รู้สึก ว่าร่างกายเริ่มจะผ่อนคลาย แต่ก็คงนั่งนิ่ง อยู่ที่โซฟาเช่นเดิม รู้สึกหนังตาหนัก อึ้งจนไม่อาจจะมืนได้ ปล่อยให้ดวงจิตเข้ายู่ภวังค์เอ๊ะ! นั่นใครมายินลับๆ ล่อๆ อยู่ที่ริมหน้าต่าง และแล้วม่านหน้าต่างก็ ค่อยๆ เปิดออกพร้อมกับเสียงเรียกชื่อผมเบาๆ ผมค่อยๆ เพ่งตามองดู แล้ว เรียกชื่อนั้นเบาๆพีแม้น”ร่างนั้นยิ้มให้กับผม แต่ยังคงยินอยู่ที่เดิม ไม่ปรากฏรองรอยของ อาการบาดเจ็บหรีอบาดแผลแต่อย่างใด“พีต้องขอโทษด้วยทีทำให้น้องต้องตกใจเมื่อลักค2 แต่พี่ไม่มีเจตนาจะ ทำให้น้องตกใจกลัว พี่แค่จะบอกน้อง...” เขาเว้นระยะนิดหน่อยจนผมอดจะ ถามไม่ได้“พี่แม้นจะบอกอะไรผมเหรอ?” เขาจ้องมองหน้าผม จีพีเอสไร้สาย  ผมเพิ่งจะลังเกต เห็นน้ำตายังคงคลออยู่ในดวงตาของเขา “น้องช่วยไปบอกพ่อกับแม่ของพี่ให้มานำพี่กลับบ้านด้วย พี่ไปไหนไม่ 1ด้ต้องวนเวียนอยู่แกวนั้น” ผมอึ้งครู้หนิ่งจึงถามว่า “จะให้ผมทำอย่างไรบ้าง ผม ทำไม่ qnหรอก”“น้องไปบอกพ่อกับแม่ก็แล้วกัน ท่านทั้งสองทราบดี” ผมพยักหน้ารับ “ถ้างั้นพรุ่งนี้ผมจะไปบอกให้" พี่แม้นยิ้มให้ผมอย่างขอบคุณ “พี่ขอบคุณมาก ไปล่ะ” แล้วร่างนั้นก็ค่อยๆ เลือนหายไป พร้อมๆ กับผม ที่สะดุ้งตื่นขึ้นมาบอกพิกัด  มองไปทางหน้าต่าง พบว่าม่านสันไหวเล็กน้อย โดยไม่ปรากฏว่า จะมีลมพัดซักนิด นึกในใจว่า “รึว่าพี่แม้นมาหา แต่เพิ่งจะหลอกเราไปนี่หว่า” ผม นั่งทบทวนความฝันอยู่ครู่หนึ่ง จึงเดินเข้าห้องนอนหลับไปรุ่งเช้าผมก็เล่าความฝันของผมให้กับเดชาฟัง ซึ่งเดชาก็เห็นด้วยกันกับ ผมที่จะต้องไปบอกพ่อ-แม่ของพี่แม้นให้ทราบ เมื่อได้รับฟังเรื่องราวทั้งหมด ป้า แจ่มถึงกับปล่อยโฮออกมาอย่างกลั้นไม,อยู่ และในตอนบ่ายวันนั้นเอง พ่อ-แม่ ของพี่แม้นก็นิมนต์พระมาทำพิธี เชิญดวงวิญญาณของพี่แม้นไป โดยที่ผมเอง ไม่ทราบเช่นกันว่าทำอย่างไรบ้าง ตั้งแต่วันทำพิธี ก็ไม่มีใครพบเห็นวิญญาณ ของพี่แม้นอีกเลย ผมได้แต่ทำบุญอุทิศส่วนกุศลไปให้ พี่แม้นสู่สุคติ.ไม่ยอมคาย ณ หมู่บ้านแห่งหนึ่งทางตอนเหนือของประเทศ ซึ่งประชาชนส่วนใหญ่ ประกอบอาชีพเกษตรกรรมและหาของปามาขาย ดำปันและทองมูล ดักฟังมือถือ  สองสามี ภรรยา ซึ่งเพิงจะแต่งงานกันใหม่ๆ แรกเริ่มทั้งสองก็ช่วยกันปลูกผักและเก็บ ของปาออกขายจนกระทั้งวันหนึ่ง ขณะนั่งรับประทานกันอยู่พี่ดำปันจ๊ะ ทองมูลมีข่าวดีจะบอกพี่จ๊ะ’’ ทองมูลเอ่ยขึ้นพร้อมทั้งชาย ตามองสามี ดำปันละสายตาจากจานข้าวหันหน้ามามองภรรยา ถามว่า “ข่าวดี อะไรจ๊ะ อย่าบอกนะว่าทองมูลจะมีไอ้ตัวเล็ก” ดำปันพูดตักคอภรรยา ทองมูล ใช้มือตีแขนสามีเบาๆ พูดอ้อมแอ้มอยางเขินอายว่า “ใช่จ๊ะพี่! ทองมูลท้องได้เดือนกว่าแล้ว”ไชโย! ในที่สุดความพยายามของพี่ก็ประสบความสำเร็จ” ดำปันร้อง อย่างดีใจ พร้อมทั้งอุ้มภรรยาเดินไปมารอบบ้าน

เครื่องติดตามรถยนต์

วันพฤหัสบดีที่ 10 กันยายน พ.ศ. 2558

บริหารจัดการทรัพยากรทางน้ำ

มีเพื่อนคนหนึ่งในกลุ่มที่คบหากันไปทำบุญนั่นแหละค่ะ คนนี้ กลัวแก่มากที่สุด ซึ่งเธอก็ให้ข้อคิดว่าบอกว่ากลัวทำไมกับการแก่“ ดักฟังไร้สาย ความจริงคนเรานั้น แก่มาตั้งแต่เกิดแล้ว จริงไหม หากเราไม่ แก่ เราจะได้เกิดจากท้องพ่อท้องแม่ไหม ก็ไม่ได้เกิดเพราะครรภ์ยังไม่ แก่ เราเกิดมาเราก็แก่แล้วจะไปห่วงทำไม ผิวหนังร่างกายอะไรนี่ก็ไม่ใช่ ของเรา เรามาอาศัยเขาอยู่เพื่อสร้างบุญกุศล เราดูแลเขาไปตามสภาพ อย่าไปแสวงหาความงามมาเสริมมาแต่งเลย ธรรมชาติเขาเบ็เนมา อย่างไรก็ไม่มีทางที่จะเปลี่ยนแปลงอะไรได้ อย่างไปดึงผิวดึงหน้า ดึง ไปแล้วดึงแต่มันเลียสมดุลทางธรรมชาติต่อไปมันก็จะเสื่อมลง เลียหาย ตามมาแน่ๆ เราอย่าไปห่วงเรื่องแก' ห่วงเรื่องว่าทำอย่างไรเราจะไปตา หลับมีรอยยิ้มที่ใบหน้าเราเท่านั้นเอง..” นี่คือคำเธอฝากมา เธอบอกฟัง พระเทศน์มาเยอะรู้เรื่องเกิดแก่เจ็บตายมามาก คือเราเองก็เห็นจริงตาม นั้นนะคะ ผู้เขียนเองก็ยังห่วงเรื่องแก่มาก ไม่อยากแก่ ไม่อยากตายเลย วันเวลาทำไมผ่านไปเร็วนักก็ไม่รู้ ลูกๆ เริ่มโต เรืยนหนังสือจบ ทำงาน เพื่อนๆ เราเองก็ เริ่มแก่ผมเริ่มหงอกกันแล้ว เราจะมาสวยมางามอยู่ได้ อย่างไร ก็เลยได้คิดจากกำนันนี่แหละ รวมไปถึงคุณจรรยาด้วย ที่ให้ ข้อคิดดื ๆ เสมอ ทำให้เราได้ฉุกคิดว่าชีวิตคนเราสั้นนัก จะทำอะไรให้ริบทำ โดยเฉพาะการทำ กรรมดึ เพื่อเราจะได้ไปสว่างไม่ไปมืดเหมือนคนที่ไม่ยอมทำอะไรเลย โดยเฉพาะความดึและบุญกุศล”กำนันจะบอกทุกคนเสมอว่า ให้สร้างบุญไว้นะ ชีวิตคนเราสันนัก อย่าไปห่วงเรื่องทรัพย์สมบัติมากนัก ห่วงว่าเราจะตายเมื่อไหร่ดึกว่า อุปกรณ์ติดตามรถ  เพราะหากเราตายไปโดยที่ยังไม่ทันสร้างบุญเลยนั้นเราจะเอาแรงบุญ ที่ไหนหนุนล่งชืวิตเราไปเกิดในภพภูมิที่ดึเล่า และคนเรานั้นชีวิตนั้นสั้น นักจะตายเมื่อไหร่ก็ไม่มีใครรู้หรอกอย่างเธอคนนี้นี่'ไง มีคนหลายคนเคยคิดว่า เธอจะต้องไปจาก โลกนี้ก่อนสามี เพราะสุขภาพเริ่มแย่ลงทุกวัน ส่วนพี่ปินสามีนั้นไม่เป็น อะไรเลย แข็งแรงดึ จะมีก็แต่สมองนิดหน่อยเกี่ยวกับความจำ หลงๆ ลืม ๆ และช่วยตัวเองได้ดี อาบนํ้าทานข้าวออกกำลังกาย และฟ้าอาการ ภรรยาอย่างห่วงใยทุกคิน ไม่เคยขาดแต่แล้วในวันหนึ่ง เธอก็เห็นร่างของสามีสุดที่รักนั่งฟุบอยู่ใน ห้องนั้าในสภาพไม่ได้สติแล้ว เรียกน้องสาวให้มาช่วยแบกร่างของผู้ใหญ่ ขึ้นรถไปโรงพยาบาล แต่สามีก็จากไปแล้ว ไปไม่กลับไปอย่างสงบไม่ ทุกข์ร้อนต้องให้เลือดให้นํ้าเกลือหรีอให้เครื่องช่วยหายใจแต่อย่างใดโลงลืสวยที่ประดับประดาดอกไม้งดงามตั้งตระหง่านอยู่ตรงหน้า เธอในเวลาต่อมา จีพีเอสติดตาม  บนศาลาใหญ่ของวัดแห่งนี้ ร่างสามีสุดที่รักนอนสงบ นึ่ง และไม่มิวันที่เขาจะกลับมานั่งเฝืามองเธออีกแล้ว ต่อไปนี้ไม่มีแวว ตาที่แลนห่วงใยทุกครั้งที่มองมาที่เธออีกแล้วดอกไม้จากพวงหรีดนับร้อยนับพันบนศาลาใหญ่บ่งบอกให้รู้ว่า คนที่นอนในโลงนั้นมีเมตตาบารมีเพืยงไหน ทั้งเธอและสามีสู้กรรมกัน


เครื่องติดตามรถยนต์

วันพุธที่ 9 กันยายน พ.ศ. 2558

วิธีการรักษาอุปกรณ์สืบสวนอย่างดี

ทางอันยากลำบากของหลวงพ่อสด แห่งวัดปากนํ้าภาษีเจริญที่ต้องเดิน จีพีเอสติดตาม ทางรอนแรมไปเพื่อหาปัจจัยมาสร้างวัดนั้น ดูจะเป็นการทำให้สมคิด ฉุกคิดทั้งๆ ยังเป็นเด็กว่หากเราทำตามอย่างหลวงพ่อ จะช่วยบำรุงพระพุทธศาสนาให้ อยู่ยืนนานแสนนานแม้จะเหน็ดเหนื่อยแค'ไหน ใจเราก็คงเป็นสุข เหมือนใบหน้าและแววตาของหลวงพ่อสด ที่มืแต่รอยแห่งเมตตาธรรม เพราะในใจท่านพบสุข ซึ่งเป็นการพบสุขที่แท้จริง เมื่อพบแล้ว ท่านก็ คงอยากให้มวลมนุษย์ผู้ทุกข์ยาก พ้นทุกข์พบสุขดังท่าน”อย่ากระนั้นเลย เราต้องช่วยหลวงพ่อท่านอีกทางหนึ่ง กำลังเราพอที่จะสร้างวัดสร้างบุญในบวรพุทธศาสนา เรายังเด็ก เพิ่ง จะเริ่มก้าว แต่เราจะก้าวตามรอยทางท่านไป..”นับจากวันนั้น แววตาของสมคิด ก็เหมือนจะเห็นรอยทาง พ้นทุกข์ การเดินทางชีวิตที่ถูกต้อง ดูแลบุพการี ดูแลคนรอบกายอย่าง สมํ่าเสมอ ดีงาม ดูแลงานบ้านงานเรือน งานสวน งานในนา ทำทุก อย่างครบครัน แม้จะได้เรียนแค่นั้นก็พอใจ เพราะหากเรียนสูงไกว่า นั้นต้องเดินทางไกล เขตทวิวัฒนายังไม่มีมหาวิทยาลัย หรือวิทยาลัยเพชรลดา เย่อป้อักษร    19 ที่มีการศึกษาสูงไปกว่ามอปลายจึงหยุดเรียนแค'นั้น หันมาสนใจที่จะ เป็นแม่ค้าอยู่ที่บ้าน  ดักฟังมือถือ เป็นสาวขาวนาในยามไปนา เป็นสาวชาวสวนใน ยามลงสวนปลูกผักกับพี่ชายเด็กสาวดำเนินชีวิตอย่างเรียบง่าย ช่วยพ่อแม่ทำงานบ้าน งานนา ช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์ยามที่ทุกข์ยากมาพึ่งพา ที่บ้านของลมคิด นั้นทั้งพ่อและแม่ดำเนินรอยตามพ่อกำนัน หรีอตากำนันของเธอมาเป็น อย่างดี ทั้งสองเป็นหมอยาคอยช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์ที่ตกทุกข์ได้ยาก ทั้งการเจ็บไข้ได้ป่วย ทั้งการบาดเจ็บจากอุบัติเหตุสารพัดเหตุที่ต้องมีหมอยากลางบ้านแบบนี้เพราะในสมัยก่อนนั้นโรง พยาบาลนั้นอยู่ไกลเต็มทีอย่างเขตตลิ่งชันหรือเขตทวีวัฒนานั้น ต้องขึ้นอยู่กับโรงพยาบาลคิริราช ซึ่งการเดินทางนั้นต้องขึ้นเรือไป การ หามคนเจ็บลงเรือนั้นยากลำบากมาก และถึงจะมีรถก็ไปลำบากเหมือน ทางเรือนั่นแหละ เมื่อไปไกลกันนักง่ายๆ ก็มาที่บ้านพ่อแม่ของสมคิด เพราะแม่ของเธอนั้นเป็นลูกลาวกำนันหมอยามาก่อนนั่นเอง รู้เรื่องยาสมุนไพรดี ดักฟังในรถ ในยามคนเจ็บนอนร้องครางโอยๆ ที่บนแคร่ใต้เรือน สมคิดจะ มาช่วยแม่ดูแลเพื่อนมนุษย์ด้วยกันเสมอ บางครั้งต้องดูแลคนไข้จนแทบ ไม่ได้ไปวัดในวันพระ แต่ก็รู้'ว่าการทำความดีมีเมตตาต่อคนเจ็บป่วย ที่นอนรอความเมตตาอยู่นั้นก็เท่ากับการสร้างคุณงามความดีและ เป็นการสร้างกุศลได้เหมือนกัน เธอไม่เคยท้อในการสร้างบุญกุศล ไม่ เคยท้อในการดูแลคนป่วยไข้ที่นอนรอความเมตตาจากพ่อและแม่ ไม่



เครื่องติดตามรถยนต์

วันอังคารที่ 8 กันยายน พ.ศ. 2558

ภาพลักษณ์ของนักสืบจะต้องดูดีอยู่ตลอดเวลา

รู้จักรักษาหน้า แล£สร้างภาพลักษณ์ปฏิเสธไม่ได้เลยว่า ในปัจจุบันนี้ ผู้คนให้ความสนใจกับภาพ ลักษณ์กันมากขึ้น โดยเฉพาะผู้ที่ประกอบธุรกิจนั้น สมควรอย่างยิ่งที่ จะคำนึงถึงการรักษาหน้าตาของตนไว้ เพราะหากว่าเราได้ชื่อว่าเป็น ดักฟังในรถ  ตัวแทนสินค้าหรือบริการใดๆ แล้ว ตัวเราเองนั่นแหละที่เป็นเครื่อง ยืนยัน และรับประกันถึงคุณภาพของสินค้าหรือบริการนั้นๆ    เลยทีเดียวในการปรากฏตัวแต่ละครั้งของเราจึงมีความสำคัญมาก ไม่ว่าทำรฺรกิDIล็กๆ อบ่านารให้เติบโตและรวยเร็วยามจำเป็นนั้น นับว่าเป็นการแสดงนั้าใจอย่างสูงเลยทีเดียวสมมติว่าเราเป็นเจ้าของร้านอาหารที่มักมีบรรดานายทุนมาร่วม สนทนากันเป็นประจำ หากลูกค้าทีเป็นเจาของกิจการของเราคนหนง เขาได้เผลอลืมไม่ได้เอากระเป๋าสตางค์มา แล้วในมื้ออาหารมื้อนั้น เขา ต้องเป็นเจ้ามือพอดี หากเราไดํให้เครดิตแก่เขาโดยทีไม่ต้องมีสิงใดรับ ประกันเลยนั้น นอกจากที่จะไม่ทำให้เขาเสียหน้าแก่เหล่าคู่สนทนา ธุรกิจแล้ว ก็ยังเป็นการเพิ่มความสำคัญและรักษาหน้าแก่ลูกค้าดนนั้น พร้อมกันด้วย ซึ่งการทำเช่นนี้ อาจจะทำให้เราได้รับการตอบแทน อย่างคาดไม่ถึงในภายหลังเลยทีเดียวท่ารุรกิ๐เล็กๆ รบ่าบไรให้เติบโต และรวย เร็ว การต่อราคาเป็นเรี่,องปกติไม่ว่าเราจะเป็นผู้ชื้อหรือผู้ขาย การต่อรองราคานั้น เป็นสิ่งที่ หลีกเลี่ยงไม่ได้อย่างแน่นอน เพราะการต่อรองราคานั้นเป็นความสุข อย่างหนึ่งของผู้คน หากในฐานะผู้ขาย เราไม่ยอมลดราคาสินค้าลง แต่อย่างใด ต่อให้มีใครมาชื้อก็ตาม เขาก็จะชื้อแค่เพียงครั้งเดียว ด้วยความจำเป็นในคราวนั้น และไม่หวนมาชื้อสินค้าเราอีก เราก็จะ ไม่มีลูกค้าประจำอย่างแน่นอน ซึ่งหากเรายอมสูญเสียกำไรเล็กน้อยใน การรับข้อเสนอในการต่อรองราคาจากลูกค้าแล้วนั้น ลูกค้าก็จะมีความ สุขในการจับจ่ายใช้สอยและแวะเวียนมาชื้อของจากเราอีกเรื่อยๆ เป็น  ติดตามรถ แน่เมื่อรู้ธรรมชาติของการต่อราคาแล้ว สำหรับการเจรจาธุรกิจ นั้น หากเราเป็นฝ่ายเสนอราคาก็ควรเสนอราคาขายที่มากกว่า และไม่ ควรอย่างยิ่งที่จะตั้งราคาตํ่า เพื่อดึงดูดความสนใจ เพราะในที่สุดแล้ว คู่เจรจานั้นย่อมต่อรองราคาเราให้ตํ่าเท่าที่เขาจะต่อรองได้เป็นแน่ และ หากเราเป็นฝ่ายเลือกชื้อสินค้าหรือบริการ ก็ควรที่จะขอต่อรองราคา เพราะราคาที่ฝ่ายนั้นเสนอมา ย่อมอยู่ในการคำนวณที่สามารถลดราคา ลงได้อีกถึงคราวถอยก็ต้องถอยในการทำธุรกิจ หากเราเห็นว่าสถานการณ์มันยํ่าแย่เต็มที ก็ ควรที่จะรู้จักวางมือเพื่อล่าถอยออกมาก่อนที่ทุกอย่างจะพังทลายลงทำอุรกิ๐!รกๆ อบ่าน่เร ให้เติบโตและรวยเร็วไป เพราะการดื้อดึงหรือดันทุรังนั้น นอกจากจะไม่ใช่การแก้ปัญหาที่ ดีแล้ว ก็ยังส่งผลกระทบให้เกิดความเสียหายมากขึ้นไปอีกการก้าวถอยเช่นนี้ ไม่ใช่ความขลาดเขลา ความพ่ายแพ้ หรือ ความอ่อนแออย่างแน่นอน เพราะการทำธุรกิจย่อมมีเหตุปัจจัยหลาย อย่างที่จะเป็นอุปสรรคได้ เราจึงไม่ควรโทษตนเองที่ไม่สามารถประคับ ประคองหางเสือทำมกลางนาวาเศรษฐกิจที่ถาโถมเข้ามาได้ เพราะการ ดักฟังไร้สาย  ตัดสินใจส่าถอยหรือวางมือก่อนที่ความเสียหายจะบานปลายนั้น มัน ต้องใช้ความกล้าหาญและมันสมองอันชาญฉลาดในการคำนวณ สถานการณ์แวดล้อม และย่อมเป็นการก้าวถอยเพื่อที่จะคิดแผนการที่ จะบุกไปข้างหน้าอย่างมั่นคงในอนาคตทำอฺรกิอเล็กๆ รบ่าบ่!รให้เติบโตและรวยเร็ว

เครื่องติดตามรถ

วันจันทร์ที่ 7 กันยายน พ.ศ. 2558

นักสืบมีจิตวิญญาณและมีทักษะในการปฏิบัติงาน

คนเราจะมีความสุขหรือทุกข์ย่อมขึ้นอยู่กับการกระทำเป็นใหญ่ จีพีเอสติดตามตัว  หาใช่เพราะพระพรหมหรือผีสางเทวดา หรือดวงดาวบนท้องฟ้าจะดล บันดาลให้เป็นไปลัตว์ทั้งหลายมีกรรมเป็นของตน เป็นทายาทแห่งกรรม มีกรรม เป็นกำเนิด มีกรรมเป็นตัวแปรกำหนดให้เป็นไปซึ่งผลแห่งกรรมจะอยู่ เคียงคู่ราวกับเป็นเงาที่เฝ็าอยู่กับตัวเราตลอดเวลา ไม่ว่าจะดำเนินไปทาง ไหน เพียงแต่จะปรากฏให้เห็นแจ่มแจ้งชัดเจนเพียงใด ในสถานการณ์ เช่นใดเท่านั้นออดยังคงใช้ชีวิตเช่นเดิมคือเป็นลูกน้องคนสนิทของผู้มีอิทธิพล ที่มีความฮึกเหิมขึ้นเรื่อยๆ สอดแนมเขาอาจจะมีความภาคภูมิใจที่ได้เดินตามผู้ทรง อิทธิพล เป็นคนคอยพิทักษ์ผลประโยชน์และดูแลความปลอดภัยให้ นายโดยที่เขาไม่เคยรู้มาก่อนเลยว่า ใครๆ ต่างก็มองว่าเขานั้นก็เป็นได้ เพียงสุนัขรับใช้ของผู้เป็นนายเท่านั้นและเป็นสุนัขที่มีความชื่อสัตย์ต่อเจ้าของเสียด้วย!!ทำให้คนเชื่อว่าเมื่อวิญญาณออกจากร่างใหม่ๆ จะต้องถูกนำไป พิพากษาก่อนจะส่งไปเสวยผลกรรมของตนที่เคยสร้างไว้เมื่อครั้งยังมี ชีวิตอยู่ ไม่ว่าจะเป็นกรรมดีหรือกรรมชั่วก็ตามหากใครสร้างกรรมใดไว้ วิญญาณแต่ละดวงก็จะได้รับผลกรรม นั้นหนักเบาแตกต่างกันไป สุดแท้แต่ว่าใครจะสร้างบุญสร้างบาปมามาก  ดักฟังในรถ น้อยแค่ไหนด้วยเหตุนี้ค่าว่า ‘ ‘ทำดีได้ดี ทำชั่วได้ชั่ว” จึงเป็นค่าพูดที่เราท่าน ทั้งหลายเคยคุ้นหูกันมาแล้วชั่วชีวิต ถือเป็นธรรมะประจำใจที่จดจำได้ ง่ายที่สุดและเห็นได้ชัดเจนที่สุดก็ว่าได้ขณะเดียวกัน แม้ว่าคำๆ นี้จะแทรกซึมเข้าสู่ระบบความทรงจำของ มนุษย์มาตั้งแต่ยังเยาว์วัย แต่ในทางปฏิบัติค่าสอนซึ่งเป็นสัจธรรมข้อนี้ กลับกลายเป็นเรื่องยากเย็นเต็มทีสำหรับคนบางคน เนื่องเพราะคนส่วน ใหญ่ยังหลงมัวเมาหมกมุ่นอยู่กับกิเลสรอบด้าน จึงทำให้เห็นชั่วเป็นดี เห็นดีเป็นชั่วกันเสียมากกว่าหลายปีก่อนผู้เฃียนได้สัมผัสรับรู้ถึงเรื่องราวของผู้ชายคนหนึ่ง เขา กับผู้เขียนแม้ว่าจะมีชีวิตอยู่ใกล้ชิดกันตั้งแต่เล็กจนโต แต่ความสัมพันธ์ ระหว่างเราหาได้เติบโตหรือเบ่งบานไปตามกาลเวลาไม่เพราะตลอดเวลา ที่ผู้เขียนได้รู้จักกับผู้ชายที่ชื่อ “ออต”  ติดตามตัว ก็มักจะได้พบเห็นพฤติกรรมอัน เป็นบาปของเขาเสมอๆออดได้ชื่อว่าเป็นคนใจหินคนหนึ่ง ไม่มีความเมตตากรุณาอยู่ ภายในจิตสำนึกของเขาเลยแม้แต่น้อย เขามักจะกล้าทำในสิ่งที่คนอื่นๆ ไม'กล้าทำเพราะเกรงกลัวบาป กลัวกรรมจะตามสนอง

เครื่องติดตามตัว

การอับพรางอย่างลึกลับของนักสืบทำให้มีความคืบหน้าของคดีที่ติดตาม

กรรมที่นางเพิ่มก่อเอาไว้ยังไม่สินสุดเพียงเท่านั้น และไม่ต้องรอ ซดใช้ถึงชาติหน้าเพราะมันได้ส่งผลให้เห็นทันตาอีกครั้งหนึ่งในเวลา ไม่นานนักนางเพิ่มแกเป็นแม่ม่าย มีแต่ลูกสาวเพียงคนเดียวที่แกเฝ็าประคบ ประหงมเลี้ยงดูอย่างดีมาโดยตลอด ดักฟังมือถือ  เมื่อผู้เป็นแม่ถูกจับเข้าคุก ลูกสาว ซึ่งกำลังอยู่ในช่วงวัยรุ่นก็ไม่สามารถอยู่ได้โดยไม่ทำอะไรเพราะเงินทอง ของแม่ที่เคยเก็บสะสมไว้ก็ค่อยๆ ร่อยหรอลงเรื่อยๆในที่สุดเมื่อเงินหมด ลูกสาวของนางเพิ่มจึงจำเป็นต้องหาเงินมาไว้ เป็นค่าใช้จ่ายและเด็กสาวก็ทำอะไรไม่เป็นนอกจากจะใช้เรือนร่างเป็น เครื่องมือหากิน จนกระทั่งต่อมาก็ได้กลายเป็นหญิงโสเภณีอาชีพและ ยังคงเป็นอยู่ตราบกระทั่งนางเพิ่มออกจากคุกหลังจากถูกจองจำอยู่ระยะ หนึ่งนี่คือผลสะท้อนของกรรมที่นางเพิ่มผู้เป็นแม่ได้เคยก่อไว้กับยาย เจียนเมื่อครั้งอดีต ทำให้ผลกรรมนั้นต้องมาตกกับลูกสาวซึ่งเป็นประดุจ หัวแก้วหัวแหวนและชีวิตจิตใจของนางเพิ่มอีกทอดหนึ่งวิถีชีวิตของคนเรานั้นขึ้นอยู่กับกรรมเป็นที่ตั้ง ทุกการกระทำของ คนเราย่อมส่งผลสนองย้อนกลับ ไม่ว่าจะเป็นกรรมดีที่เรียกว่ากุศลกรรม หรือกรรมชั่วที่เรียกว่าอกุศลกรรมที่เราได้กระทำขึ้นโดยเจตนาหรือไม่ อย่าง เรกตามลัตว์ทั้งหลายมีกรรมเป็นของตน มีกรรมเป็นตัวแปรกำหนดให้ เป็นไปซึ่งผลแห่งกรรมจะอยู่เคียงคู่ราวกับเป็นเงาที่เฝ็าอยู่กับตัวเรา ตลอดเวลาไม่ว่าจะดำเนินไปทางไหน เพียงแต่จะปรากฏให้เห็นแจ่มแจ้ง ชัดเจนเพียงใดในสถานการณ์เช่นไรเท่านั้กรรมใดที่เรากระทำ กรรมนั้นย่อมให้ผล” จึงเป็นคำกล่าว ที่เป็นจริงเสมอ..
.ออด อุปกรณ์ติดตามรถ เติบโตมาภายในครอบครัวที่แตกร้าว พ่อกับแม่แยกทางกัน เขาต้องไปใช้ชีวิตอยู่กับแม่และพ่อเลี้ยงที่ใจคอค่อนข้างเหี้ยมโหดทำ ให้เขาได้ซึมซับความหยาบกระด้างจากผู้เป็นพ่อเลี้ยงมาตั้งแต่ยังเล็กเขาชื่นชอบการรังแกสัตว์เป็นชีวิตจิตใจ ชอบการยิงนก ตกปลา ชอบตีไก่ กัดปลา ชอบประพฤติตัวไปในเชิงนักเลงหัวไม้และชอบการ พนันจนฝังแน่นในวิญญาณสิงหนึ่งที่ออดดูจะไม่ชอบเอาเสียเลยนั่นก็คือ สัตว์ 4 เท้าที่เราเรียก ว่าสุนัข เนื่องจากเขาเคยถูกสุนัขกัดตั้งแต่สมัยยังเป็นเด็กจึงผูกพยาบาท กับสุนัขอย่างแรงกล้า เรียกว่าเจอที่ไหนเป็นต้องจัดการกับมันอย่างไหดเหียมเสียทุกครังเวลาไปไหนมาไหนออดมักจะมีไม้ถือติดมืออยู่เสมอ พอเขาเห็น สุนัขจรจัดที่ไม่มีเจ้าของเดินเพ่นพ่านไปมา เขาจะใช้ท่อนไม้ขนาดเขื่อง หวดเข้าใส่ร่างมันอย่างไม่มีเหตุผลมีสุนัขหลายตัวในหมู่บ้านที่ผู้เขียนอยู่ต้องบาดเจ็บหรือพิการไป เพราะนํ้ามือของผู้ชายที่ชื่อออดคนนี้ บางตัวถูกหวดจนขาแข้งหัก บาง ตัวถึงกับหลังเสียไม่สามารถลุกขึ้นเดินได้ บางตัวก็ถูกเขาเอานี้าร้อนลวก และบางตัวก็กลายเป็นเหยื่อให้เขาขับรถไล่ชนจนตายไปต่อหน้าต่อตาก็ อุปกรณ์ขนาดเล็ก เคยมีผู้ใหญ่หลายคนในหมู่บ้านเคยพรํ่าเตือนและห้ามปรามไม่ให้เขา ก่อกรรมท่าเข็ญต่อสัตว์เดรัจฉานเหล่านี้ แต่ผู้ชายที่ชื่อออดไม่เคย สนใจหรือใส่ใจรับพิง เขายังคงมีพฤติกรรมโหดเหี้ยมอย่างนี้เรื่อยมา จนสุนัขที่ตกเป็นเหยื่อพยาบาทของเขาเพิ่มจำนวนนับสิบนับร้อยตัว

เครื่องติดตามรถ

สถาบันศึกษาได้มีคำสั่งให้ผู้ที่เี่ยวข้องไปสืบคดีอาชญากรรม

เมื่อเรารู้ว่าผู้คนใช้ชีวิตอย่างไร เปลี่ยนแปลงอย่างไร และอะไร มีความจำเป็นต่อการดำเนินชีวิตในช่วงไหน เราสามารถประกอบธุรกิจ ได้อย่างตรงเป้าหมายกับผู้บริโภค เช่น เมื่อเราต้องการประกอบอาชีพ เสริมในละแวกบ้านพัก  อุปกรณ์ไร้สาย สิ่งที่เราต้องรู้ เพื่อประกอบการตัดสินใจ ในการลงทุน คือที่ประกอบธุรกิจอยู่ใกล้เคียงกับสถานที่ไหน ผู้คนระดับไหน ที่ใช้ชีวิตหรือสัญจรอยู่ในบริเวณนั้นเรามีทุนทรัพย์อยู่เท่าไหร่เราควรใช้ช่วงเวลาไหนในการประกอบการเรามีความชำนาญในสิ่งที่ทำมากน้อยเพียงไรทำอย่างไรเราจึงสามารถบริหารเงินในการลงทุน ให้เสียค่า ใช้จ่ายน้อยที่สุดอย่างเหมาะสม ฯลฯหากเรานำสภาพเหตุการณ์ข้างต้นมาบวกกับการตีโจทย์ 5 ข้อ ด้านล่าง เราก็จะสามารถสร้างรายได้ให้กับตนเองได้อย่างไม่ขาดตก บกพร่องในปัจจุบันสภาพแวดล้อมบนโลกเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วขึ้น ส่งผลให้เหตุการณ์หลายๆ อย่างเปลี่ยนแปลงและปรับตัวตามไปด้วย หลากหลายสิ่งส่งผลต่อการเปลี่ยนแปลงทางด้านเศรษฐกิจ วิถีการ ดำเนินชีวิตของผู้คนในสังคม เช่นเทคโนโลยีกำลังก้าวล้ำอย่างรวดเร็ว ส่งผลให้ผู้คนทำงานนอก บ้านมากขึ้น ธุรกิจต่างๆ ที่เอื้อประโยชน์ต่อความสะดวกสบายในการ ดำรงชีวิตกลับเพื่องฟู ผู้คนใช้รถใช้ถนนเดินทางภายในประเทศมากขึ้น ส่งผลให้ธุรกิจด้านการคมนาคมเติบโตอย่างรวดเร็วยิ่งขึ้นด้วย ดังนั้นจึง ส่งผลให้ปริมาณการใช้น้ำมันเชื้อเพลิงสูงขึ้นและเริ่มขาดแคลน จึงมีการ พัฒนาการผลิตสิ่งอื่นเพื่อทดแทนในสิ่งที่กำลังจะหมดไปก้าวทันกระแสการเป็นคนเปิดกว้าง ก้าวลํ้าทันกระแสการเปลี่ยน- แปลงของโลก ถือเป็นแนวความคิดของบุคคลซึ่งพร้อม ดักฟังมือถือ  รับมือกับความเปลี่ยนแปลง และสามารถคิดตามปรับตัว ให้เข้ากับสังคมได้ดี สิงเหล่านี้ส่งผลดีให้กับคนที่สามารถ เปิดรับสิ่งใหม่ๆ และนำมาประยุกต์ใช้ให้เข้ากับการดำเนิน ชีวิตในสถานการณ์ปัจจุบันของตนเอง สิ่งแรกที่เด็กๆ ควรเรียนรู้ก่อนการหาหนทางสร้าง รายได้ให้แก่ตนเอง คือ การสำรวจตนเอง ว่ามีความพร้อม ทางด้านไหน เซ่น หากลูกๆ ยังเด็กมาก ก็เป็นหน้าที่ของ คุณพ่อคุณแม่ที่จะซักจูงลูกๆ มาคิดวางแผนการเสริม สร้างรายได้ในแบบง่ายๆ ที่คุณแม่เป็นตัวตั้งตัวตีแต่หาก ลูกๆ เติบโตในระดับหนึ่งอาจปรึกษากับคุณพ่อคุณแม่ถึง แนวทางการสร้างรายได้ ซึ่งอาจมีทางเลือกที่มากขึ้น เซ่น ทำธุรกิจ หรือค้าขายในแบบเล็กๆ เซ่น ตั้งโต๊ะหน้าบ้าน ขายอาหารใส่บาตรตอนเช้า เพาะต้นไม้ขาย เปิดท้ายขายของที่เราไม่ใช้ แล้ว ทำเสื้อ กระเป๋าขายเอง หรือ ทำงาน Part time ในสถานที่ใกล้บ้าน เป็นต้นแต่หลังจากที่ลูกๆ มีความพร้อมในการสำรวจตัวเองแล้ว คุณ พ่อคุณแม่ควรแนะน่าให้ลูกๆ ได้ลองสำรวจตลาดก่อน ว่าสิ่งที่ได้คิดที่จะ ทำเพื่อเสริมสร้างรายได้นั้นเหมาะสมกับความต้องการในท้องตลาด ขณะนั้นหรือไม่ เพื่อให้มีความรอบคอบ มีความสามารถคิดวางแผนให้ เป็นก่อนที่จะลงมือกระทำสิ่งใด เป็นการเสริมสร้าง ดักฟังขนาดเล็ก นิสัยที่ดีอีกอย่างหนึ่ง นั่นเองการสำรวจตลาด คือ การสำรวจความต้องการของกลุ่มเป้าหมาย ที่เราต้องการให้เขาใช้บริการ หรือซื้อสินค้าจากเรา อาทิ กลุ่มเป้าหมายเป็นคนในระดับสูง กลาง หรือ รากหญ้า อาชีพของผู้ใช้บริการเพื่อให้ทราบถึงรสนิยม ความชอบ ความต้องการ อายุพ เพศ ความนิยมของกลุ่มเป้าหมาย ฯลฯยกตัวอย่างเช่น น้องๆ น่าอุปกรณ์เครื่องเขียนที่มีราคาต้นทุน ที่ตา แต่มีความสวยงามไปขายให้เพื่อนๆ ที่โรงเรียน ก็ส่งผลให้ขายได้

เครื่องติดตามรถ

บริษัทแห่งหนึ่งเปิดรับสมัครพนักงานสืบสวนเข้าร่วมองค์กร

หยุดเป็นคนมีพฤติกรรมด่วนจ่าย ยกตัวอย่าง เช่นเมื่อข้าวของเครื่องใช้ในชีวิตประจำวัน เช่น สบู่ ยาสีฟัน ยา- สระผม ฯลฯ หมดลง คุณพ่อคุณแม่ควรพาลูกๆ ไปเลือกซื้อสินค้าด้วย เพื่ออธิบายถึงการวางแผนไตร่ตรองก่อนจะซื้อสินค้า ดักฟังมือถือ เด็กๆ จะได้เรียนรู้ ว่าเราควรซื้อสิงของเหล่านี้ครั้งละ 1 โหล หรือ ครึ่งโหล เพราะสินค้าที่ แพ็คขายเหล่านี้จะมีราคาที่ถูกกว่านั่นเอง และเราต้องใช้สินค้าเหล่านี้ เป็นประจำ จึงไม่ควรถือเอาความสะดวกเป็นใหญ่โดยซื้อแบบแบ่งขาย หรือในกรณีที่เราต้องใช้สินค้าประ๓ท สบู่เหลว นํ้ายาล้างจานเวลาเติมสินค้าลงภาชนะเดิมเท่านั้น ถือเป็นการคิดไตร่ตรองก่อนจ่ายที่ ดีวิธีหนึ่งนั่นเองนิสัยด่วนจ่ายทำลายงบประมาณในกระเป๋าของเราให้หมดไป อย่างรวดเร็ว คุณพ่อคุณแม่จึงต้องพยายามสร้างนิสัยช่างคิดช่างไตร่ตรอง ถึงความคุ้มค่าให้แก่ลูกๆ ก่อนที่เขาจะเติบโตมาเป็นผู้ใหญ่ที่ควักเงิน ง่ายจ่ายแบบไม่รอบคอบ ซึ่งทำลายอนาคตของเจ้าสัวตัวน้อยไปอย่าง น่าเสียดายทีเดียว สิ่งสำคัญสุดท้ายที่เด็กๆ ควรเรียนรู้ในการเติบโต เป็นผู้ใหญ่ที่แข็งแรงทั้งทางด้านร่างกาย จิตใจรวมถึง ศักยภาพในการดำเนินชีวิตรวมถึงฐานะทางเศรษฐกิจ ซึ่งวิถีแห่งการเป็นเจ้าสัวตัวน้อยนั้นขาดไม่ได้เลยทีเดียว นั้นคือ การสร้างรายได้ให้เพิ่มพูน ซึ่งเป็นหนึ่งในวิธีการ บริหารเงินที่เด็กๆ ต้องมีความคิดสร้างสรรค์รวมถึงความ รอบคอบ มองการณ์ไกล มีสติและมองโลกในแง่บวกแนวความคิดต่างๆ เหล่านี้ เกิดขึ้นได้จากทัศนคติที่ดี ที่สามารถ เสริมสร้างอุปนิสัยของเด็กๆ ซึ่งส่งผลไปยังอนาคตของพากเขาเหล่านั้น ด้วยเช่นกัน เครื่องติดตามขนาดเล็ก  ลูกๆ จะรารายได้นั้นย่อมขึ้นอยู่กับแนวทางความคิดและ การปฏิฟ้ติตัว ที่คุณพ่อคุณแม่ได้ปูพื้นฐานในการอบรมสังสอนตั้งแต่วัย เยาว์นั่นเองการที่คุณพ่อคุณแม่ส่งเสริมประสบการณ์การเรียนรู้ให้แก่ลูกๆ นั้นถือเป็นการเพิ่มทักษะในการดำเนินซีวิตให้แก่เด็กๆ ตั้งแต่ในวัยเยาว์ เป็นการสร้างให้เด็กๆ พร้อมเติบโตเป็นผู้ใหญ่ที่มีสักยภาพทั้งทางด้าน ร่างกายและจิตใจนั่นเองและในการที่เราพยายาม'ฝืกให้เด็กๆ ได้เรียนรู้การบริหาร เงินทองด้วยตนเองตั้งแต่เล็กๆ ก็ถือเป็นการเริ่มต้นปูพื้นฐานทักษะชีวิต เพื่อให้เขาได้สัมผัสรสชาติของการบริหารการกระทำของตนเองได้อย่าง รวดเร็วขึ้น การเรียนรู้นั้นไม่ได้สร้างผลเสียให้แก่เด็กๆ เลย หากแต่ คุณพ่อคุณแม่ควรอบรมลูกๆ อย่างใส่ใจใกล้ชิด เพราะเขาอาจยังเด็ก เกินกว่าจะตัดสินใจได้อย่างถูกต้องได้เองในบางเรื่องที่เด็กๆ ยังขาด ประสบการณ์ในการเรียนรู้ตังนันการส่งเสริมทักษะกาเมื่อเด็กๆ เริ่มเรียนรู้ที่จะใช้จ่ายเงินเป็นแล้ว คุณพ่อคุณแม่ ก็ควรเริ่มสังสอนให้เขาได้เริ่มเรียนรู้ ในการทำงานเพื่อแลกมาซึ่งเงินทอง ด้ว เริ่มจากเมื่อเขายังเด็กมาก คุณพ่อคุณแม่อาจสอนให้เขา เรียนรู้คุณค่าของเงินได้จากการให้เด็กๆ ทำงานบ้าน เช่น ล้างจาน รดนั้า ต้นไม้ เก็บกวาดบ้าน ฯลฯ และตกลงกันกับลูกๆ ว่าจะให้เงินเป็นค่า ตอบแทนเมื่อเขาทำงานนั้นสำเร็จลุล่วงพ เมื่อเด็กๆ เติบโตขึ้นมาอีกนิด คุณพ่อคุณแม่อาจซักชวนให้ เด็กๆ ร่วมกิจกรรมสร้างรายได้ภายในบ้านที่คุณพ่อคุณแม่อาจทำอยู่ แล้ว ในแบบที่เขาพอจะทำได้ เช่น พับถุงกระดาษขาย ทำริบบิ้นขาย เพาะปลูกต้นไม้ไว้ขายหรือหากครอบครัวไหนที่ค้าขาย อุปกรณ์ดักฟังจิ๋ว มีกิจการส่วนตัว อยู่แล้ว เช่น เปิดร้านอาหารก็ควรให้เด็กๆ ได้มีส่วนร่วมในการทำงาน เพื่อให้เขาได้เรียนรู้การทำงานเพื่อให้ได้มาซึ่งเงินทอง ว่าเหนื่อยยาก หรือ สนุกสนานอย่างไร เด็กๆ จะได้สังสมประสบการณ็ในการเรียนรู้ได้ ด้วยตัวเอง และเด็กๆ จะเริ่มเช้าใจวงจรของเงินและรู้คุณค่าของเงินทอง มากยิ่งขึ้น

เครื่องติดตามรถ