วันพุธที่ 23 กันยายน พ.ศ. 2558

อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ที่สามารถติดตามบุคคลได้

บนทึกของจอมพล ป. พิบูลสงคราม ที่นำเสนอผ่านหนังสือพิมพ์นั้น...ไร้ผลอย่างสิ้นเ?ง เพราะทันทีที่หม่อมเสนีย์ ปราโมช เข้ารับตำแหน่งนายกร้ฐมนตรี ได้ออก พ.ร.บ.อาชญากรสงคราม กวาดล้างพวกเฐบาลเกาที่ยอมให้ญี่ป่นผ่านแดนดังนั้นรัฐบาลหม่อมเสนียได้ออก พ.ร.บ. อาชญากรสงครามแล้วเข้า จับกุมจอมพล ป. เครื่องติดตามตัว พิบูลสงคราม ในฐานะอาชญากรสงคราม สำหรับพรรคพวกที่ถูกจับร่วมกับจอมพล ป. ได้แก่นายอัมพร พจนวิสุทิ นางสาวชวลี ช่วงวิทย์ พ.อ.สนิท ไทยยานนท์พ.ต.บรินทร์ ภักดีกุล น.,ท.ทักษ์ เสนิวงค่โหลวงไพริ ระย่อเดช พล.ท.หลวงเสรีเริงฤทธิ้ พ.ท.พระสารสาสน์ พลขันธ์ นายเพียร ราชธรรมนิเทศ นายสังข์ พัฒโนทัย พล.ท.มังกร พรหมโยธี นายประยูร ภมรมนตรี นายฉํ่า จำรัสเนตร หลวงวิจิตรวาทการ ร.ต.อ.สนิท ธรรมเชื้อ การจับกุมจอมพล ป. ครั้งนี้ ได้ใช้หน่วยจู่โจมผสม อันมีสารวัตร ทหารที่เคยเป็นหน่วยเสรไทยมาก่อน โดยกระทำกันเมื่อตอนเช้ามีด เช้า ล้อมบ้านพักซอยชิดลมของจอมพล ป. และตรึงกำลังเอาไว้จากนัน...เจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำหมายจับและหมายค้นของคณะ กรรมการอาชญากรสงครามเข้าจับกุมและค้นจอมพล ป. มิได้ขัดขืนแต่อย่างไร คงให้จับแต่โดยดี ซึ่งเป็นครั้งแรก ในชีวิตทางการเมืองที่ถูกจับในข้อหาการเมืองมีบันทึกของคุณหญิงละเอียด พิบูลสงคราม กล่าวถึงเหตุการณ์ที่ ท่านจอมพล ป. ถูกจับและต้องติดคุก สภาพจะเป็นเช่นไร... “บันทึกความ ทรงจำ” ของคุณหญิงกล่าวว่า...เมื่อเสร็จสงครามแล้ว ดิฉันยังจำเหตุการณ์ตอนที่ท่านจอมพลฯ ถูก รัฐบาลในขณะนั้นตั้งข้อหาว่าเป็นอาชญากรสงครามหมายเลขหนึ่ง นับว่า เป็นโทษขั้นหนักที่สุดสำหรับประเทศ หนังสือพิมพ์ทุกฉบับได้ลงข่าวนี้กัน  เครื่องติดตามในรถ อย่างครึกโครมความรู้สึกของท่านจอมพลฯ ในขณะนั้น ดิฉันรู้สึกว่าท่านชินซา มาก ทั้งนี้เพราะทราบล่วงหน้าอยู่แล้วว่าจะต้องประสบเคราะห์กรรมเช่นนี้ และก่อนหน้านั้นก็มืพรรคพวกมาเตือนมาบอกให้รู้ตัวอยู่เสมอๆ บางคนมา ตำหนิท่านเสียอีกว่าที่เป็นเช่นนี้ก็เพราะว่าท่านมอบอำนาจให้อยู่ในมือของ บุคคลอื่นมากเกินไป แต่ท่านก็มิได้พูดว่ากระไรเกี่ยวกับเรื่องนี้ รู้สึกว่าท่าน รู้ชะตากรรมของท่านดีวันที่ ๑C ตุลาคม ๒ (E-RTf? เป็นวันที่เจ้าหน้าที่มาเชิญตัวท่านไป ควบคุมในฐานะเป็นผู้ต้องหานั้น พวกเราทุกคนทราบล่วงหน้ากันหมดแล้ว เวลานั้นครอบครัวของเราพักอยู่ที่บ้านหลักสี่ ประมาณตีสี่ วันที่ท่านจะถูก ควบคุมตัวเป็นผู้ต้องหาโทษฉกรรจ์ มีนายทหารบกประมาณ ร:-๕ คนมาที่ บ้าน ร้อยเอกอนันต์ พิบูลสงคราม ลูกชายเป็นคนเปิดประตูรับนายทหาร ให้เข้ามาในบ้านแล้วบอกว่า“ขอเวลาหน่อยนะ คุณพ่อยังไม่ตื่น(อังกฤษ: ขอให้ท่านตื่นก่อนเถอะแล้ว ค่อยเอาตัวไป ”ซึ่งนายทหารนั้นก็ยินยอมเป็นอย่างดี เมื่อท่านจอมพลฯ ตื่นขึ้นมาท ราบเข้าท่านก็ถาม“อ้อ เขามากันแล้วหรือ พ่อก็พร้อมแล้วเหมือนกัน”นายทหารบนคนที่มาเชิญตัวท่านคนนั้น ซื่ออะไรก็จำไม่ได้เสียแล้ว ได้คุกเข่ากราบท่านและกล่าวด้วยนํ้าเสียงสั่นเครือและนํ้าตาตลอว่า “ผม ทำตามหน้าที่ที่ได้รับมอบหมายมาเท่านั้น” ซึ่งท่านก็เข้าใจและไม่ได้กล่าว อะไรอีกจนคำเดียว ก่อนฟ้าสางในตอนเช้าวันนั้นเองท่านก็ออกจากบ้าน จากลูกจากเมียไปโดยมีประสงค์ พิบูลสงคราม ลูกชายขับรถให้คุรพ่อด้วย ระหว่างนั้น ชุดดักฟังราคา ได้มีผู้มาแสดงความเสียใจกับดิฉันเป็นจำนวนมาก มี ทั้งคนไทยและชาวต่างประเทศ ดิฉันรู้สึกในขณะนั้นว่าชาวต่างประเทศ บางคนเสียอีกที่เข้าใจอะไรๆ ในบ้านเมืองราดีเสียกว่าคนในประเทศไทย นับเป็นภาวะที่ครอบครัวของเราลำบากมากทีเดียว ระหว่างที่ท่าน จอมพลฯ อยู่ในที่คุมขังในฐานะอาชญากรสงคราม ดีฉันถึงกับต้องขายของ เก่ากิน มีอะไรก็ขายไป พอเช้าขึ้นเจ๊กก็มาถามว่ามีอะไรจะขายให้บ้าง ดิฉัน ก็จ์ดการขายไปเรื่อยๆ คิดเสียว่าสมบ้ตินอกกายไม่ตายก็หาใหม่ได้ ก็เก็บ ขายเรื่อยไป นอกจากเครื่องเพชรมีค่าชิ้นหนึ่งที่ไม่ได้ขาย แต่เอาไปไว้กับ

เครื่องดักฟัง

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น