วันอังคารที่ 29 กันยายน พ.ศ. 2558

เครื่องช่วยฟังเป็นเครื่องที่ช่วยในการรับฟังผู้ที่มีปัญหาด้านหู

จักมีแต่บ้านขุนรามบ้านเดียวในละแวกนั้น หากมีคูหนึ่งแยกจากคลอง เข้าไปในสวน หลังบ้านขุนรามเดขะได้ แต่ตอนที่พวกเราไปกันนี้ ไม่ได้ ลงเรือ เพราะถึงลงก็ไม่มีคลองฉะไกรให้แล่นเรืออีกแล้ว มีแต่ถนนฉะ ไกรใหญ่ เครื่องช่วยฟังราคาถูก  หรือถนนคลองท่อ บ้านขุนรามฯ ก็คงไม่หนีไปจากพื้นที่ ระหว่างหลังพระเจดีย์สมเด็จพระศรีสุริโยทัยกับสวนหลวง ร.๙ ซึ่งเรไร เจ้าก็พอจะเดินไปวังได้ไม่ไกลนัก และละแวกเดียวกันนี้ก็คงเป็นบ้าน ณรงค์วิชิต นายขัน และบ้านแม่ข้าหลวงบัวเผื่อนด้วย เพราะเวลากลับ จากวัง เรไรมักจะมาทางเดียวกันแล้วมาแยกเข้าแพร่งต่างสุ ไปบ้านของ ตน แต่ของแม่เรไรจักถึงก่อนเพื่อนที่ไม่เข้าใจก็คือ ตอนที่เสมาท้ารบกับพันฤทธิ้รณรบ นายขัน และ พันจบรณรงค์ นั้นเขาก็วิ่งออกมาจากบ้านขุนรามฯ ด้วยโทสะตอนแรก นัดจะไปฟันกันที่ตะแลงแกง หรือไม่ก็ที่ท้ายศาลพระกาพ ซึ่งอยู่ทางด้าน เหนือ กำแพงพระนครด้านทิศตะวันออก ใกล้สุ วัดธรรมิกราช แต่พอ เอาเข้าจริง กลับไปเดินผ่านย่านปาผ้าเหลือง ผมพยายามหาปาผ้าเหลือง แต่ไม่เจอบ้ามะพร้าว ซึ่งในแผ่นที่อยู่ทางมุมเกาะเมืองด้านตะวันออก เฉียงเหนือ หลังพระราชวังจันทรเกษมโน่น แล้วกลับมารบกันที่ลานวัดปา พาย ซึ่งต้องวิ่งวกกลับมาบริเวณใกล้สุ กับสืแยกถนนชีกุน ตัดกับถนน บ้าโทน  หูตึง ปัจจุบันประมาณนั้น วิ่งข้ามมาตั้งหลายลานวัด น่าจะหายโมโห เลืยก่อนคงไม่ได้รบกัน ดูแล้วไม่น่าจะไปไกลถึงขนาดนั้น เพราะบ้านขุน รามอยู่หลังสวนหลวง ร.๙ แล้ววิ่งไปคนละมุมเมืองเลยอย่างไรก็ตาม ซื่อสถานที่ในสมัยก่อนในแผนที่ และซื่อภูมินาม ทีท่านไม้ เมืองเดิม กับท่านสุมทุม บุญเกื้อ ท่านไปเที่ยวไปพัก ไปกินนอน ฝืงตัวอยู่ในสมัยนั้น กับซื่อปัจจุบันนี้อาจจะซํ้าจุ กัน หรือหายไปเลยก็ได้ ผมยังต้องหาอีกหลายซื่อที่ยังไม่พบ ทั้งจากแผนที่และหนังสือของพระยา โบราณราชธานีนทร์ท่าน อย่างเซ่น วัดร่มขาวหรือวัดมณเฑียร ที่สมบุญ กับสิน ไปทำบุญหลังจากเสร็จดิกยุทธหัตถีมาแล้ว และไปพบจำเรียงที่ สมบุญขึ้นไขโซ่หนีทาสไปเฝืาไข้แม่ทั้งพันอีนทราซกลาโหมหมื่นชาญณรงค์ กับแม่น้องหญิงดวงแข แม่ข้าหลวงบัวเผื่อน หมื่นทรงเดชะ พ่อขุนราม- หูหนวก  เดชะ ก็ไปประชุมกันที่วันมณเฑียร เกิดเรื่องจะจับทาสหนีนายเงิน แต่ พันสมบุญกับพันสิน ไม่ยอมให้จับเรื่องก็ถีงวิวาทกันอีก กำลังชุลมุน ขุนดิก เป็นออกหลวงโจมจัตุรงค์ก็อัญเชิญพระบรมราชโองการมาถึง แล้วรวบกุม ตัวทั้งหมดตามพระบรมราชโองการฐานกบฏดิก เพราะโดยเสด็จไม่หันช้าง อีกแห่งหนึ่งที่เราไปตูมาก็ที่บริเวณที่คิดว่าเป็นบ้านของอาจารย์บ่าย อาจารย์ของฝ่ายอริของเสมาคือ อาจารย์ของนายพุฒ พันจบ กับหมู่ขัน และฝ่ายตัวโกงทั้งหลาย (ความจริงเรื่องนี้ก็โกงกันทุกฝ่าย) คุณประยุกต์ บอกคุณหมอณัฏฐให้พาพวกเราไปตามถนนอู่ทองโฉมหน้าไปทางตะวันตก ลอดสะพานปริดี-ธำรง ไปทางวัดสุวรรณดาราราม แล้วขอให้คุณหมอ จอดตรงบริเวณที่สันนิษฐานว่าเป็นหลังวัดโค ลึกเข้าไปจะเป็นบ้านเผาข้าว ซึ่งเป็นสำนักของอาจารย์ตังอาจารย์บ่าย เป็นอาทมาตกองทะลวงฟันรุ่นไล่เสี่ยกับห่านพระครู ขุนของเสมา แต่นิสัยของอาจารย์บ่ายชอบเสเพล กินเหล้าเมายาเป็นอาจิณ เห็นแก่ได้ เล่ห์เหลี่ยมแพรวพราว จึงเอาดีไม่ได้ เห็นได้จากอาจารย์เอง รวมกับลูกคิษย์ระดับหมู่ขัน พันจบ แถมขุนรามอีกคน คุมรุมรบเสมายัง หงายท้องเลย แต่คุยเก่งมีลูกคิษย์มาก ที่น่าเกลียดคือ โดนลูกคืษย์ด่าลับ หลังเปีงใน ขุนคิก เมื่อทหารจะไปรบทัพจับคิก หรือได้ขัยชนะปราบปราม ข้าคิกพ่ายไปแล้ว ท่านก็จะให้มาประขุมกันที่  จำหน่ายเครื่องช่วยฟัง สนามหน้าจักรวรรดิซื่อเต็มๆ ว่าสนามหน้า พระที่นั่งจักรวรรดิไพซยนต์ เพื่อปูนบำเหน็จความดีความ ชอบ สนามแห่งนี้ ก็เหมือน สนามไชย ที่ข้างวังสราญรมณ์กรุงเทพฯ ที่อยู่ หน้าพระที่นั่งลึหบัญชร ซึ่งเป็นพระที่นั่งที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จออกไปให้ประซาซนเข้าเฝ่าซมพระบารมี ตอนที่เสด็จเถลิงถวัลยราช

เครื่องช่วยฟัง

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น