วันอาทิตย์ที่ 13 กันยายน พ.ศ. 2558

อิทธิพลของลูกค้าและพฤติกรรมของลูกค้าที่เปลี่ยนแปลงไปจากเดิม

เคยเห็นมนุษย์คนใดซีดเท่านี้มาก่อนราวกับว่าสีเลือดนั้นถูกสูบไปหมดจาก ร่างกาย แต่ยังคงมีเค้าหน้าเดิมๆ อยู่ ผมหยุดนิ่งลมหายใจแทบหยุดเต้น ตา เบิกค้าง ขนลุกยู่ มือเท้าเย็นเฉียบ พูดออกมาอย่างยากเย็นแสนเข็ญ “พี่... พี,...แม้น... ติดตามขนาดเล็ก ”พูดจบผมก็เผ่นแนบกลับมาที่รถไฟฉายหลุดมือไปตอนไหนไม่ทราบ คร่อมรถได้ผมก็หลับหูหลับตาเร่งความเร็วของรถเสียงดังลั่น ทุ่งฉิวออกจาก บริเวณนั้น โดยไม่ไยดีกับร่างของแม้นที่ยันกายลุกขึ้นยืนโบกไม้โบกมือหยอยๆ ผมกลับเข้าบ้านแล้วแต่ผมบนศีรษะยังคงชี้เด่อยู่เลย เข้าบ้านได้ผมรีบ ก้มลงกราบพระบนหิ้งทำใจให้สงบอยู่พักหนึ่ง เมื่อรู้สีกว่าดีขึ้นมาบ้าง ผมจึงลุก ขึ้นเดินตรงไปยังตู้เย็นหยิบบรั่นดีในตู้ หยิบแก้วติดมือมา ทิ้งตัวลงบนโซฟา อย่างคนสิ้นเรี่ยวแรง ผมเทบรั่นดีแล้วปล่อยให้นั้าสีดำไหลผ่านลำคอลงไป รู้สึก ว่าร่างกายเริ่มจะผ่อนคลาย แต่ก็คงนั่งนิ่ง อยู่ที่โซฟาเช่นเดิม รู้สึกหนังตาหนัก อึ้งจนไม่อาจจะมืนได้ ปล่อยให้ดวงจิตเข้ายู่ภวังค์เอ๊ะ! นั่นใครมายินลับๆ ล่อๆ อยู่ที่ริมหน้าต่าง และแล้วม่านหน้าต่างก็ ค่อยๆ เปิดออกพร้อมกับเสียงเรียกชื่อผมเบาๆ ผมค่อยๆ เพ่งตามองดู แล้ว เรียกชื่อนั้นเบาๆพีแม้น”ร่างนั้นยิ้มให้กับผม แต่ยังคงยินอยู่ที่เดิม ไม่ปรากฏรองรอยของ อาการบาดเจ็บหรีอบาดแผลแต่อย่างใด“พีต้องขอโทษด้วยทีทำให้น้องต้องตกใจเมื่อลักค2 แต่พี่ไม่มีเจตนาจะ ทำให้น้องตกใจกลัว พี่แค่จะบอกน้อง...” เขาเว้นระยะนิดหน่อยจนผมอดจะ ถามไม่ได้“พี่แม้นจะบอกอะไรผมเหรอ?” เขาจ้องมองหน้าผม จีพีเอสไร้สาย  ผมเพิ่งจะลังเกต เห็นน้ำตายังคงคลออยู่ในดวงตาของเขา “น้องช่วยไปบอกพ่อกับแม่ของพี่ให้มานำพี่กลับบ้านด้วย พี่ไปไหนไม่ 1ด้ต้องวนเวียนอยู่แกวนั้น” ผมอึ้งครู้หนิ่งจึงถามว่า “จะให้ผมทำอย่างไรบ้าง ผม ทำไม่ qnหรอก”“น้องไปบอกพ่อกับแม่ก็แล้วกัน ท่านทั้งสองทราบดี” ผมพยักหน้ารับ “ถ้างั้นพรุ่งนี้ผมจะไปบอกให้" พี่แม้นยิ้มให้ผมอย่างขอบคุณ “พี่ขอบคุณมาก ไปล่ะ” แล้วร่างนั้นก็ค่อยๆ เลือนหายไป พร้อมๆ กับผม ที่สะดุ้งตื่นขึ้นมาบอกพิกัด  มองไปทางหน้าต่าง พบว่าม่านสันไหวเล็กน้อย โดยไม่ปรากฏว่า จะมีลมพัดซักนิด นึกในใจว่า “รึว่าพี่แม้นมาหา แต่เพิ่งจะหลอกเราไปนี่หว่า” ผม นั่งทบทวนความฝันอยู่ครู่หนึ่ง จึงเดินเข้าห้องนอนหลับไปรุ่งเช้าผมก็เล่าความฝันของผมให้กับเดชาฟัง ซึ่งเดชาก็เห็นด้วยกันกับ ผมที่จะต้องไปบอกพ่อ-แม่ของพี่แม้นให้ทราบ เมื่อได้รับฟังเรื่องราวทั้งหมด ป้า แจ่มถึงกับปล่อยโฮออกมาอย่างกลั้นไม,อยู่ และในตอนบ่ายวันนั้นเอง พ่อ-แม่ ของพี่แม้นก็นิมนต์พระมาทำพิธี เชิญดวงวิญญาณของพี่แม้นไป โดยที่ผมเอง ไม่ทราบเช่นกันว่าทำอย่างไรบ้าง ตั้งแต่วันทำพิธี ก็ไม่มีใครพบเห็นวิญญาณ ของพี่แม้นอีกเลย ผมได้แต่ทำบุญอุทิศส่วนกุศลไปให้ พี่แม้นสู่สุคติ.ไม่ยอมคาย ณ หมู่บ้านแห่งหนึ่งทางตอนเหนือของประเทศ ซึ่งประชาชนส่วนใหญ่ ประกอบอาชีพเกษตรกรรมและหาของปามาขาย ดำปันและทองมูล ดักฟังมือถือ  สองสามี ภรรยา ซึ่งเพิงจะแต่งงานกันใหม่ๆ แรกเริ่มทั้งสองก็ช่วยกันปลูกผักและเก็บ ของปาออกขายจนกระทั้งวันหนึ่ง ขณะนั่งรับประทานกันอยู่พี่ดำปันจ๊ะ ทองมูลมีข่าวดีจะบอกพี่จ๊ะ’’ ทองมูลเอ่ยขึ้นพร้อมทั้งชาย ตามองสามี ดำปันละสายตาจากจานข้าวหันหน้ามามองภรรยา ถามว่า “ข่าวดี อะไรจ๊ะ อย่าบอกนะว่าทองมูลจะมีไอ้ตัวเล็ก” ดำปันพูดตักคอภรรยา ทองมูล ใช้มือตีแขนสามีเบาๆ พูดอ้อมแอ้มอยางเขินอายว่า “ใช่จ๊ะพี่! ทองมูลท้องได้เดือนกว่าแล้ว”ไชโย! ในที่สุดความพยายามของพี่ก็ประสบความสำเร็จ” ดำปันร้อง อย่างดีใจ พร้อมทั้งอุ้มภรรยาเดินไปมารอบบ้าน

เครื่องติดตามรถยนต์

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น