วันจันทร์ที่ 21 กันยายน พ.ศ. 2558

ทางสหประชาชาติได้ให้ความสนใจกับเครื่องดักฟังอย่างมาก

ภายหลังสงครามอินโดนีจีนแล้วไทยได้วางแผนก้องกันราช อาณาจักรอย่างเร่งรีบ เนื่องจากทางภาคใต้ของเราขณะนั้นขาดแคลนทหาร จึงรีบส่งกองทัพต่างๆ ไปประจำหลายจังหวัด เช่น จังหวัดชุมพร สงขลา ปัตตานี ตรัง เครื่องติดตาม นครศรีธรรมราช จากนั้นได้สถาปนามณฑลที่ ๖ ขึ้นที่จังหวัดนครศรีธรรมราช ขณะ นั้นเราเชื่อมั่นว่าอังกฤษไม่กล้าบุกไทยเพราะติดสงครามอยู่ที่ยุโรปกับ เยอรมัน แต่ค่อนข้างมั่นใจว่าญี่ป่นต้องบุกไทยเพื่อสถาปนาระบบวงไพบูลย์ครั้นวันที่ ๖ ธันวาคม พ.ศ. ๒รr^rcr จอมพล ป. พิบุลสงครามกับ คณะได้ออกเดินทางไปตรวจดูแนวต้านทานทางศรีโสภณ ขณะเดียวกัน ณี่ปุนยื่นคำขาดกับประเทศไทย ขอผ่านไปมาเลเซียและให้ร่วมรบเมื่อนายกรัฐมนตรีไม,อยู่ จึงไม่มีใครสามารถตกลงได้ นายปรีดี พนมยงค์ ซึ่งกำลังดำรงตำแหน่งรัฐมตรีว่าการกระทรวงการคลังได้ขอให้ ญี่ปุนยับยั้งนตัวทำละลายการยกทหารเข้ามา รอไว้จนกว่าจอมพล ป. พิบูลสงคราม จะกลับ พระนครเสียก่อนแต่จอมพล ป. เดินทางโดยรถยนต์ จึงไม่สามารถจะกลับมาได้ทัน เวลา จนเวลา ๐๒.๐๐ น. ของวันที่ C ธันวาคม ๒<rc<r ฝ่ายทหารและ รัฐบาลไทยได้รับรายงานว่า ญี่ป่นได้ลำเลียงทหารขึ้นบกที่สงขลา ปัตตานี ขณะนี้ยังปะทะกันอยู่และทยอยขึ้นฝังที่ชุมพร ประจวบฯ สมุทรปราการ ตอนรุ่งสางจอมพล ป. กลับถึงพระนครเมื่อเวลา ๐๖.£๐ น. นั่นหมายถึงมีการ รบพุ่งเกือบจะ 4- ชั่วโมงแล้ว!ที่วังสวนกุหลาบ คณะรัฐมนตรีมีการโต้เถียงกันดุเดือนว่าจะรบหรือ จะยอมหยุดให้ญี่ปุนเดินทัพผ่านไป!ฝ่ายหนึ่งนำโดยนายปรีดี พนมยงค์ เสนอให้รักษาความเป็นกลาง อย่างเคร่งครัด ดักฟังราคา ถ้าประเทศใดมาเหยียบยํ่าลํ้าแดนเราจะต้องล้ตาย และ ต้องทำการต่อต้านไปตามวาจาที่ประกาศต่อคนทั่วโลกถึงความเป็นกลาง แต่จอมพล ป. พิบูลสงครามไม่เห็นด้วยที่จะให้คนไทยล้กับญี่ปุน เพราะกำลังการทหารแตกต่างกันมาก (ซึ่งซ,วงนั้นญี่ปุนเป็นมหาอำนาจ ทางการทหารเช่นเดียวกับประเทศตะวันตก)ขณะที่คณะรัฐมนตรีโต้เถียงกันอยู่นั้น จอมพล ป. ในฐานะนายก รัฐมนตรีเห็นว่าจะไม,ได้ข้อสรุปอะไร จึงกล่าวเตือนสติทุกคนว่า...“...ที,เราพูดกันอยู่ทุกวินาทีนี้มีคนต้องตาย เราจะให้หยุดหรือให้รบ ต่อไป ส่วนเรื่องอื่นนั้นไว้พูดกันทีหลัง ไม่อย่างนั้นทหารรบกันตายนี่ก็ละลาย ไปแล้วหนึ่งกองพันที่ปัตตานีและที่สมุทรปราการนั้นจะให้ล้หรีอไม่ให้ล้...” ที่ประชุมมอบหมายให้นายกฯ เป็นผู้ตัดสินใจ จอมพล ป. จึงกล่าว สรุปขึ้นว่า “...เรายังตกลงอะไรไม่ได้ แต่ควรลังหยุดยิงก่อน เพราะ!ก็แหลก แล้วเรามาเจรจาทางการฑูตกันว่าเขาจะว่าอย่างไร เราจะตัดสินใจว่าจะรบ  เครื่องดักฟังโทรศัพท์ หรือไม่รบต่อไป...”คำลังหยุดยิงออกเมื่อเวลา ๐๗.๐๐ น. และหลังจากนั้น ร:๕ นาที คณะฑูตญี่ปุนพร้อมทั้งทหารได้เดินทางมาถึงวังสวนผักกาด เพื่อพบนายก รัฐมนตรีนำโดยนายเตอิชิ ทะลุโบกามิ เอกอัครราชฑูตญี่ปุนได้ขอโทษต่อ นายกฯ ไทย ที่ยกทัพบุกรุกเข้ามา จากนั้นได้ยื่นข้อเสนอ £• ประการ คือ ... ๑. ทำสัญญาร่วมรบร่วมรุกกับญี่ปุนโดยประกาศสถานะสงครามทันที๒. ทำสัญญาเป็นพันธมิตรเฉยๆ โดยไม่ประกาศสถานะสงคราม ๓. ยอมให้ญี่ปุนผ่านทางไปโดยไม,ต้องทำสัญญา ในการนี้ญี่ปุน ยอมให้สัญญาเป็นลายลักษณ์อักษรว่า จะเคารพเอกราชและอธิปไตย ของไทย

เครื่องติดตามในรถยนต์

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น